กสทช. ปรับรูปแบบ ทรท.ให้ทุกสถานี และวิทยุกระจายเสียง ต้องงดรายการประจำ และตัดเข้าแถลงการณ์สด กรณีเกิดภัยพิบัติหรือเรื่องอื่นใดที่มีความสำคัญของชาติ พร้อมกันทันที
วันนี้ (1 เม.ย.68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ในที่ประชุมการแก้ปัญหาการแจ้งเตือนภัยพิบัติในทุกมิติของประเทศที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) ที่ประชุมได้ขอให้ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ไปกำหนดแนวทางการประกาศสำคัญผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) และ วิทยุกระจายเสียง ภายใต้อำนาจของ กสทช. หลังจากวันเกิดเหตุแผ่นดินไหวยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ทำให้บางสถานีโทรทัศน์ และ วิทยุไม่ทราบแนวทางในการปฎิบัติในกรณีเกิดเหตุสำคัญของประเทศทำให้บางสถานีฯ ไม่ได้ตัดสัญญาณเข้าการประกาศ สำคัญของประเทศ
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาราชการแทนเลขาธิการ (กสทช.) รายงานสรุปผลการประชุมทำความเข้าใจและกำหนดแนวทางการในการปฏิบัติการถ่ายทอดสด กรณีเกิดเหตุภัยพิบัติ ฉุกเฉิน หรืออื่น ๆ ที่สำคัญของชาติ ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ทุกสถานี และสถานีโทรทัศน์ ช่อง NBT กรมประชาสัมพันธ์ โดยนายไตรรัตน์กล่าวว่าที่ประชุมได้สรุปข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางยึดถือปฏิบัติ ดังนี้
1. กรณีเกิดเหตุภัยพิบัติรุนแรง ฉุกเฉินเร่งด่วนทันที หรือเหตุอื่นๆ ของชาติ การแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีดำเนินการ หรือโดยผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ให้ทุกสถานีโทรทัศน์ต้องเชื่อมโยงสัญญาณถ่ายทอดสดพร้อมกันจากสถานีแม่ข่ายทันที เมื่อมีการขึ้นเพจหน้าจอว่า “โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท)”
2. กรณีเหตุภัยพิบัติ หรืออื่นใด เมื่อระดับความรุนแรงลดลง การแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่สำคัญต่อเนื่องโดย “นายกรัฐมนตรี” ให้สถานีฯ เชื่อมโยงสัญญาณสดโดยพร้อมเพียงกันเมื่อมีการขึ้นเพจว่า “นายกรัฐมนตรีแถลงการณ์” ทั้งนี้แม่ข่ายจะต้องมีการแจ้งเวลาล่วงหน้าให้สถานีต่าง ๆ ทราบก่อนไม่น้อยกว่า 10-15 นาที เว้นแต่มีเหตุความจำเป็นให้แจ้งได้โดยทันที
3. กรณีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร การแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ ความคืบหน้าการดำเนินงาน หรือเรื่องสำคัญอื่นๆ โดย “รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือหน่วยงานรัฐ ตลอดจนบุคคลอื่น ๆ ให้ถ่ายทอดสด โดยสถานีโทรทัศน์ ช่อง NBT กรมประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์อื่นๆ สามารถเชื่อมสัญญาณหรือนำเนื้อหาไปเผยแพร่ต่อในรูปแบบของข่าว หรือสื่ออื่นๆอย่างต่อเนื่องตามความเหมาะสม เมื่อมีการขึ้นเพจที่หน้าจอว่า “สำนักนายกรัฐมนตรี”
ทั้งนี้ การแถลงการณ์ตามข้อ 3 จะกำหนดประเด็นสำคัญในการแถลงการณ์ขึ้นก่อนในภาพรวม และกระชับประเด็นเพื่อให้ประชาชนรับรู้ได้อย่างรวดเร็วและมีระยะเวลาไม่เกิน 10 นาที
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้รับทราบในแนวทางของ กสทช. แล้ว โดยขอให้ยึดถือในการปฎิบัติในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติหรือเรื่องอื่นใดที่มีความสำคัญของชาติ ที่จะต้องแจ้งเตือนหรือให้ข้อมูลกับพี่น้องประชาชน
