เลี้ยงเสียข้าวสุก! ตำรวจรวบลูกจ้างแสบ ยกเค้าบ้านนายจ้าง แบกตู้เซฟ กวาดทรัพย์สิน ใช้เงินเล่นพนั่น เที่ยว สปป.ลาว ฉ่ำ
25 ก.พ. 68 เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่งานสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก. สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อม พ.ต.ท.อุทิศ ชอบชื่น รอง ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3, พ.ต.ท.สมพร ทองประดับ สว.กก.สืบสวน 3, พ.ต.ต.ธนาธิป พรมไธสง สว.สส.สภ.เมืองนครราชสีมา, ร.ต.อ.ก้องภพ ฉ่อกระโทก รอง สว.สส.สภ.เมืองนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ร่วมแถลงจับกุมนายกิตติ อายุ 31 ปี พร้อมของกลาง พระเครื่องจำนวน 6 องค์, เงินสดจำนวน 46,205.75 บาท, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ oppo พร้อมสายชาร์จ, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iphone พร้อมสายชาร์จ กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ, กระเป๋าแบบถือสีดำ 1 ใบ, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีลาโน่ สีเขียว (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) 1คัน, ตู้เซฟ สภาพถูกงัดแงะ 1 ตู้, กระเป๋าเอกสารพร้อมโฉนดที่ดิน และเอกสารอื่น
โดย พ.ต.อ.สุทธินันท์ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา เผยถึงพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ. เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุคนร้ายลักทรัพย์ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เนื่องจากเจ้าของบ้านออกไปทำธุระที่ต่างจังหวัดตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. กลับมาวันที่ 17 ก.พ. พบว่าทรัพย์สินหายไป โดยเฉพาะตู้เซฟ มีทรัพย์สินหลายรายการ ได้แก่ ทองคำหนัก 10 บาท เงินสด 427,000 บาท พระเครื่องเลี่ยมทองคำหลายองค์ ตรวจสอบภายในบ้านมีกล้องวงจรปิด แต่ถูกคนร้ายทำลาย เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
ต่อมา เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 24 ก.พ. เจ้าหน้าที่ สามารถติดตาม พร้อมนำกำลังไปปิดล้อมจับกุมได้ภายในห้องเช่า ในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.มุกดาหาร
จากการสอบสวน นายกิตติ ผู้ก่อเหตุ อ้างว่า เป็นลูกจ้างทำสวน และก่อสร้างของบ้านหลังนี้ โดยฉวยโอกาสช่วงเวลากลางคืนวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา ประกอบกับนายจ้างไม่อยู่บ้าน ก่อเหตุ ปีนกำแพงรั้วหลังบ้านงัดประตูหลังบ้าน เข้าไปโจรกรรมเอาตู้เซฟ แล้วโยนออกข้างบ้าน จากนั้นได้บรรทุกใส่รถจักรยานยนต์ขับขี่หลบหนี นำตู้เซฟไปตัด งัดแงะ ที่ริมสระน้ำ ถ.สาย ฉ. เขต ต.ไชยมงคล อ.เมือง และทิ้งตู้เซฟลงสระน้ำ จากนั้นได้หลบหนีเข้ากรุงเทพฯ 1 คืน และไป จ.ขอนแก่น จ.มุกดาหาร โดยเช่าห้องที่ จ.มุกดาหาร นำเงินที่ได้เล่นสล็อต การพนันออนไลน์ ก่อนหลบหนีข้ามไปเที่ยวฝั่ง สปป.ลาว โดยใช้เงินทองที่ได้จากการโจรกรรมมา จนเหลือเป็นบางส่วน
