"กองกำลังบีจีเอฟ กะเหรี่ยง" ออกแถลงการณ์ด่วน พร้อมร่วมมือไทย ปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์-แก๊งสแกมเมอร์ และจะเร่งส่งตัวเหยื่อกลับประเทศตั้งแต่ 15 ก.พ.
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หม่องชิตตู ผู้นำกองกำลังป้องกันชายแดน (Border Guard Force - BGF) ของรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ได้ออกแถลงการณ์ในนาม "กองกำลังบีจีเอฟ กะเหรี่ยง" ส่งหนังสือถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยัน พร้อมร่วมมือไทยปฏิบัติการจับกุมปราบปรามค้ามนุษย์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เตรียมส่งเหยื่อการค้ามนุษย์ชาวต่างชาติเพิ่มต่อเนื่อง
หม่องชิตตู ระบุว่า กองกำลังบีจีเอฟ ได้ดำเนินการ ปราบปราม จับกุม และกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรม ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางออนไลน์ ซึ่งพบว่ามีการดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายแฝงอยู่ในโครงการลงทุนต่าง ๆ ในพื้นที่ปกครองของบีจีเอฟ โดยเฉพาะในเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่มีการติดต่อค้าขายและการเดินทางระหว่างไทย-เมียนมาคึกคักมาโดยตลอด
การดำเนินการครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ยังเป็นการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์และผู้ที่ถูกบังคับให้ทำงานในแก๊งสแกมเมอร์ โดยกองกำลังบีจีเอฟได้ช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมาก และกำลังดำเนินการ ผลักดันส่งตัวกลับประเทศต้นทาง เพื่อให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับการดูแลที่เหมาะสม โดยตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป จะมีการขนส่งเหยื่อค้ามนุษย์ที่ได้รับการช่วยเหลือ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ในเมืองเมียวดี เพื่อดำเนินการส่งตัวเหยื่อกลับประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเมียนมาและรัฐบาลไทย โดยหวังให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น และให้การช่วยเหลือเหยื่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมขอความร่วมมือจากรัฐบาลไทย ในการสนับสนุนแนวทางการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและกฎหมายแก่เหยื่อที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถกลับประเทศต้นทางได้อย่างปลอดภัย โดยรัฐบาลไทยสามารถให้คำชี้แนะหรือสนับสนุนแนวทางเพิ่มเติมได้ตามความจำเป็น
ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่างไทยและเมียนมา ในการจัดการปัญหานี้ โดยเฉพาะการกวาดล้างเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์และสแกมเมอร์ที่มักใช้พื้นที่ชายแดนเป็นฐานปฏิบัติการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ หากรัฐบาลไทยสามารถ ให้การสนับสนุนในด้านข่าวกรอง กฎหมาย หรือการประสานงานเพื่อปิดกั้นเส้นทางลำเลียงเหยื่อ จะช่วยให้การดำเนินการของกองกำลังมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บีจีเอฟยังมุ่งหวังให้การปราบปรามในครั้งนี้เป็น ต้นแบบของความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติในระยะยาว