เจาะประเด็นข่าว 7HD - ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท สารภาพหลังก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ไปทิ้ง ในคลอง แล้วใช้กลยุทธ์แปลงโฉม เปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนเสื้อผ้า แฝงตัวเข้าชุมชน ส่วนทองที่หายไป ตำรวจจะติดตามกลับมาให้ครบ
ตำรวจภูธรภาค 1 นำตัว นายฐาปนัส หรือ เบล ผู้ต้องหา อายุ 38 ปี ชิงทองรูปพรรณ รวม 94 เส้น น้ำหนักรวม 113 บาท มูลค่ากว่า 5,400,000 บาท ออกจาก สภ.ลำลูกกา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ ร้านทอง ในห้างสรรพสินค้าที่คลองห้า ลำลูกกา หลังจากที่ตามไปรวบตัวมาได้ จากห้างย่านบางแค กทม. ตั้งแต่เมื่อวานนี้ แล้วควบคุมตัวมาไว้ที่โรงพักจนถึงเช้าวันนี้
จากการสอบสวน นายเบล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ตำรวจสามารถตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน เป็นสร้อยคำทองคำ พระเลี่ยมทอง ทองคำก้อนหลอมแล้ว รวมไปถึงทองรูปพรรณที่ยึดได้ จากบ้านเมียของผู้ต้องหา หลังจากนำตัวทำแผนในห้างสรรพสินค้าที่ชิงทองไปแล้ว ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดที่ทิ้งจักรยานยนต์ลงคลอง ก่อนขึ้นรถสาธารณะหลบหนี
เปิดคำรับสารภาพของผู้ต้องหา เป็นคนสงขลา แต่ขึ้นมาก่อเหตุ ชิงทอง ที่ปทุมธานี เพราะมีเพื่อนอยู่ในย่านที่เกิดเหตุ ก่อนจะลงมือได้มีการเดินทางมาสำรวจจุดที่ตั้งร้านขายทอง จำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของห้าง และเส้นทางหลบหนี ไปแฝงตัวตามชุมชนต่าง ๆ ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด หลังเกิดเหตุยังได้ตัดผม เปลี่ยนเสื้อผ้า เรียกได้ว่า แปลงโฉมใหม่หมด ให้จำไม่ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตำรวจติดตามตัว
ระหว่างหลบหนีได้มีการนำทองที่มีอยู่บางส่วนไปจำนำ ซื้ออุปกรณ์ในการหลอมทอง นำสร้อยทองมาหลอมเป็นทองก้อน แบ่งทองให้เพื่อน และส่งผ่านพัสดุไปให้เมียที่สงขลา อย่างไรก็ตาม จากทองที่ชิงไปน้ำหนักรวม 113 บาท ตำรวจตามกลับมาได้ 58 บาท ยังหายไปอีกกว่าครึ่ง
ผู้ต้องหา ยังให้การว่าลงมือก่อเหตุ เพราะต้องการใช้เงินมาก ก่อนหน้านี้เคยไปเล่นการพนันที่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา อยากเดินทางไปอีกครั้ง ก็จะนำเงินที่ขายทองได้ ไปเล่นพนัน หลังทำแผนตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหา ส่งฝากขังศาลธัญบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว