ข่าวภาคค่ำ - "แสตมป์ อภิวัชร์" ออกมายอมรับผ่านรายการโทรทัศน์ว่า ทำไปเพราะต้องการพิสูจน์ว่า "ภรรยา" ตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะที่ฝั่งคู่กรณีเปิดเผยข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกับ "แสตมป์" และโพสต์ลาออกจากงาน
จบไหม ? ดรามา "แสตมป์"
แสตมป์ อภิวัชร์ พูดเรื่องที่โพสต์ในเพจฯ เฟซบุ๊ก เริ่มจากการขอโทษที่ตนเองพูดไม่หมดบนเวทีคอนเสิร์ต เมื่อวันที่ 15 มกราคม แล้วพูดชื่อศิลปินวงต่าง ๆ จนหลายคนได้รับความเดือดร้อน
ก่อนจะยอมรับว่า ตนเองแอบนอกใจภรรยาจริง ส่วนเจตนาที่พูดบนเวทีคอนเสิร์ต เพราะต้องการเคลียร์ความบริสุทธิ์ให้ภรรยา ที่ถูกสังคมเข้าใจผิด และเหตุที่ถอนแจ้งความ 3 คดี เพราะถูกกดดันจากเรื่อง คดี ม.112
พร้อมกันนี้ยังเล่าไทม์ไลน์การคบหากับ "จ." และภรรยาได้เก็บหลักฐานไว้ จึงเป็นที่มาที่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันหลังเวทีคอนเสิร์ตช่วงปี 2566 ที่นำไปสู่การฟ้องร้องในชั้นศาลฯ
ขณะที่ แก๊ป แฟนหนุ่มของ "จ." คู่กรณีของแสตมป์ และภรรยา ไล่เรียงไทม์ไลน์อีกด้าน ยืนยันว่าแฟนตนเองเป็นแค่ แฟนคลับของ แสตมป์ ไม่ได้คบหา และทำงานเป็นสไตลิสต์ให้อีกฝ่าย ก่อนจะลาออกมาเมื่อต้นปี 2566
ส่วนเหตุที่ยอมความในชั้นศาลฯ เพราะต้องการให้เรื่องจบ และพ่อของแฟน ก็ไม่เคยข่มขู่คู่กรณี แต่เตือนอีกฝ่ายว่า แช็ตที่คุยกันเสี่ยงเข้าข่ายทำผิดกฎหมาย
หลังจบรายการ แก๊ป ได้ใช้ช่องทางจอดรถชั้นใต้ดินเดินทางกลับทันที ก่อนที่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา จะโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ว่า ไม่อยากสร้างความยุ่งยากให้กับวงดนตรีที่ตนเองทำงานอยู่ จึงขอลาออกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และขอโทษที่เรื่องส่วนตัวกระทบต่อเรื่องงาน
ขณะที่ทีมข่าว 7HD ได้พูดคุยกับเพื่อนสนิทของแสตมป์ เจ้าตัวบอก อยากขอโทษ แสตมป์ และภรรยา แม้รู้ดีว่าสิ่งที่โพสต์ไปเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่จำเป็นต้องทำ เพื่อไม่ให้ศิลปินคนอื่น ๆ ได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้ เรื่องนี้ควรเป็นเรื่องของคน 4 คน ถ้า แสตมป์ เลือกพูดบนเวทีให้หมดตั้งแต่แรก ปัญหาจะไม่บานปลายขนาดนี้
ขณะที่ ทนายเดชา ที่ปรึกษาทางคดีของ "จ." ยืนยันว่า ลูกความพอใจโพสต์ขอโทษ ไม่ติดใจแจ้งความ แต่หากมีการให้สัมภาษณ์ที่ทำให้เสียหายอีกก็ต้องดำเนินคดี ส่วนคดี ม.112 "จ." และครอบครัว ได้ให้ข้อมูลกับกองทัพบกแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของกองทัพบก และกระทรวงกลาโหม จะพิจารณาเรื่องต่อจากนี้
เร่งตรวจสอบข่มขู่ "แสตมป์" ยัดคดี ม.112
ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีข่าวที่มีการข่มขู่ยัดคดี ม.112 ว่าหากมีการข่มขู่จริง กองทัพบกจะต้องไปดำเนินการสอบสวน ยอมรับกฎหมายมาตรานี้ ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองนานแล้ว ต้องตรวจสอบว่ามีการละเมิดจริงหรือไม่ ขออย่านำเรื่องดังกล่าว มาเหมารวมว่า กองทัพมีปัญหา
ขอบคุณภาพจาก : YouTube SarutaTa
