ภูมิใจไทย เรียกร้อง กกต.จัดการ "ชูวิทย์" ทำผิดกฎหมาย

ภูมิใจไทย เรียกร้อง กกต.จัดการ "ชูวิทย์" ทำผิดกฎหมาย

View icon 174
วันที่ 22 มี.ค. 2566 | 11.18 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พรรคภูมิใจไทย เรียกร้อง กกต.จัดการ ชูวิทย์ ทำผิดกฎหมาย และให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.ทั่วประเทศ เตรียมฟ้องดำเนินคดีอาญา รวมทั้งเตรียมจัดสัมมนา ตอกย้ำกัญชาเพื่อสุขภาพและการแพทย์

นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย เรียกร้อง กกต. จัดการ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หลังพบความชัดเจนว่ากระทำการโจมตีและทำลายพรรคภูมิใจไทย ส่งผลทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้ยื่นร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา รวมทั้ง วานนี้(21 มี.ค.66) ก็ยังมีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกัน แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อพรรคภูมิใจไทยก็ตาม ระบุหาก กกต.ยังไม่ดำเนินการใดๆ และยังปล่อยให้คนกระทำผิด ถือว่า กกต. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่จะไม่ดำเนินการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามที่กฎหมายกำหนด

พรรคภูมิใจไทย เรียกร้อง กกต.จัดการ ชูวิทย์ ทำผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทยทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบต่อคะแนนนิยม จะดำเนินการร้อง กกต. แต่ละจังหวัด เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนายชูวิทย์ด้วย

และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ในวันที่ 24 มีนาคม 2566 นี้ พรรคจะจัดสัมมนา หัวข้อ "ทิศทางกฎหมายกัญชา เพื่อสุขภาพ และการแพทย์ หลังเลือกตั้ง" เนื่องจากมีการเรียกร้องจากภาคประชาชน ที่ต้องการทราบความชัดเจนถึงกฎหมายกัญชา ที่ค้างการพิจารณาอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้ง กรณีที่พรรคภูมิใจไทย ถูกโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์ในนโยบายกัญชานี้

พรรคภูมิใจไทย เรียกร้อง กกต.จัดการ ชูวิทย์ ทำผิดกฎหมาย

สำหรับประเด็นที่พรรคภูมิใจไทยถูกกล่าวหา กรณีการรับเงินบริจาคและร้องให้ยุบพรรคนั้น แกนนำพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ กรณีจะมีผู้บริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล พรรคจะดำเนินการตรวจสอบบุคคลและที่มาของเงินอย่างละเอียด และแจ้ง กกต. ตามกฎหมาย โดยตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2566 มียอดบริจาครวม 355,033,6389 บาท จำแนกเป็น ปี 61 จำนวน 10 ล้านบาท ปี 62 จำนวน 161 ล้านบาท ปี 63 จำนวน 24,884,289 บาท ปี 64 จำนวน 35,952,000 บาท ปี 65 จำนวน 123,197,350 บาท และ ปี 66 ถึงปัจจุบัน จำนวน 8,730,000 บาท

นายศุภชัย เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้พรรคภูมิใจกำลังพิจารณารายชื่อ สส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีบุคคลที่มีความเหมาะสมเกิน 100 รายชื่อ และผู้ที่จะลง สส.แบ่งเขต ซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่มีว่าที่ผู้สมัครคนใดแจ้งความประสงค์ในเรื่องการย้ายพรรค