เด็กหญิงอายุ 13 ปี หนีข้ามจังหวัด หลังถูกลูกพี่ลูกน้องอายุ 26 ปี ลวงข่มขืน ซ้ำเวลาพ่อเมาเหล้า ก็จะทำร้ายร่างกาย จึงหนีมาอยู่กับเพื่อนที่ จ.อุดรธานี
วันนี้ (4 เม.ย.68) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายธนกฤต ศรีวงษ์รัตน์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าเสียว อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี แจ้งว่าเด็กหญิงอายุ 13 ปี หนีออกจากบ้านที่บ้านโนนรุ่งเรือง ต.ท่าหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย หนีเตลิดมาขออาศัยอยู่กับเพื่อนในหมู่บ้าน สอบถามเบื้องต้นทราบว่า น้องมีอายุเพียง 13 ปี แต่ถูกพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง เป็นลูกชายของลุงแท้ๆ ข่มขืนและขืนใจ จนไม่กล้าอยู่บ้าน โดยมีคลิปเสียงที่ผู้ใหญ่บ้านได้สอบถามเล่าว่า พี่ชายลวงเข้าไปในห้องแล้วบังคับข่มขืนและขืนใจจนสำเร็จความใคร่ โดยป้าที่เป็นแม่ของพี่ชาย ให้ไปฝังเข็มในอวัยวะเพศเพื่อป้องกันการท้องด้วย จนไม่กล้าอยู่บ้าน ต้องหนีออกจากบ้านเพื่อมาขออาศัยกับเพื่อน ไม่อยากไปอยู่บ้านอีกแล้ว
นอกจากนี้น้องบอกอีกว่าหากพ่อเมายาและเมาเหล้าจะทำร้ายประจำ และเคยจะถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนด้วย ต่อมาผู้ใหญ่บ้านจึงประสานให้ไปอยู่กับเพื่อนที่บ้านทุ่งกว้างพัฒนา ต.นาไหม ได้รับน้องไปอยู่ด้วยชั่วคราว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับด.ญ.อายุ 13 ปี โดยน้อง เล่าให้นักข่าวฟังว่า วันที่ 6 มี.ค.68 ที่ผ่านมา หนูถูกพี่โชค อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นลูกของลุงแท้ๆ ข่มขืน ทั้งๆ ที่หนูรักพี่โชคเสมือนพี่ชายแท้ๆ เพราะเป็นลูกของลุง โดยวันเกิดเหตุประมาณ 3 ทุ่มพี่โชคเรียกให้หนูเอากุญแจรถจยย.ไปให้ในห้อง และหนูจะขอยืมสายชาร์ตโทรศัพท์จากพี่โชค พี่โชคก็เรียกเข้าไปในห้อง หนูก็ไปหยิบเอา จากนั้นพี่โชคก็จับหนูลงที่นอน หนูก็ตกใจมาก ขอร้อง นี่น้องนะ อย่าทำแบบนี้ แต่พี่โชคก็อุดปากหนูไว้แล้วดึงกางเกงหนูออกข่มขืนหนู หนูพยายามขัดขืนแต่สู้แรงไม่ได้ แล้วพี่โชคก็ขู่ห้ามบอกใคร หนูก็ไปบอกยาย แต่ยายก็ช่วยอะไรไม่ได้ หนูเสียใจมาก วันนั้นพี่โชคเมายาบ้าด้วย หนูอยากแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พี่ไม่น่าจะทำแบบนี้ หนูไม่อยากอยู่บ้านแล้ว เพราะหนูกลับมาก็จะถูกพี่โชคขืนใจอีก แต่หนูขอร้อง และอีกอย่างหนูกลับไปบ้านก็จะถูกพ่อเวลาเมาจะทำร้ายร่างกาย และสมัยหนูอายุ 7 ขวบก็เคยถูกพ่อแท้ๆ จะข่มขืนด้วยแต่ยายมาเห็นก่อน โดยบ้านหลังที่อยู่มีหนู มียาย พ่อ พี่โชค กับลุงและป้า หนูขอไม่กลับบ้านอีกแล้ว หนูกลัวพี่โชคจะข่มขืนและพ่อจะทำร้ายร่างกายอีกแน่นอน
ต่อมา น.ส.อนินทิตา รุจิประภา พมจ.อุดรธานี ได้สั่งการให้ น.ส.อรทัย บุญธรรม นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก และครอบครัว จ.อุดรธานี เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริง พบว่าข้อมูลเป็นจริง และได้รับตัวน้องมาอยู่บ้านพักเด็กและครอบครัวจ.อุดรธานี จะได้ประสานไปยังพมจ.หนองคายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ส่วนเรื่องคดีความ จะแจ้งผู้ปกครองน้องให้ทราบอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่เบื้องต้นน้องอายุไม่ถึง 15 ปีจะยินยอมหรือไม่ก็ตามก็ถือว่ามีความผิดในข้อหา ล่อลวง-พรากเด็ก “ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 400,000 บาท