ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศ ปลดแอก ทางการค้า ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลก ท่ามกลางความวิตกกังวลอาจเกิดสงครามการค้ารอบใหม่
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศขั้นต่ำ 10 เปอร์เซ็นต์ มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนนี้ พร้อมชูแผนผังรายชื่อแต่ละประเทศ ร่ายยาว ประเทศใดเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ สูง หรือ เอาเปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ มาก จะถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ในอัตราสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ อาทิ สหภาพยุโรป ถูกเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า 20 เปอร์เซ็นต์ จีน 34 เปอร์เซ็นต์ และไทย 36 เปอร์เซ็นต์ มีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน เป็นต้นไป พร้อมขู่ด้วยว่า หากประเทศใดใช้มาตรการกำแพงภาษี หรือขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตอบโต้ จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มหนักกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ก็พร้อมเปิดทางที่จะเจรจากับประเทศคู่ค้า
สำหรับกลุ่มประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ ในเอเชีย จีน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ มากที่สุด แม้ถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ในรอบใหม่ น้อยกว่าไทยและเวียดนาม แต่เมื่อรวมกับของเดิม 20 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับจีนจะถูกเรียกเก็บภาษีสินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ถึง 54 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจุดยืนของจีนคือพร้อมตอบโต้ ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
ส่วนที่มีผลในวันนี้เลย คือการประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็ก 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกระทบ จีน, สหภาพยุโรป, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอีกหลายประเทศผู้ส่งออก