เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องราวของ "ลุงนิด" ทำเอาแต่ละคนหัวเสีย ตอนแรกเขามาในฐานะผู้เสียหาย สุดท้ายเป็นผู้ต้องหา
ใครได้ฟังก็แอบน้ำตาซึมสงสาร นายสมนิจ หรือ ลุงนิด อายุ 51 ปี อ้างว่าเมียท้อง 4 เดือน เป็นเสมียนทำงานอยู่ที่ชั้น 4 ร่างเมียติดอยู่ใต้ซากอาคาร กังวลเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือจะไม่ได้เจอหน้าเมีย
ลุงนิด ปักหลักอยู่ที่จุดเกิดเหตุมานาน 4 วัน ทำผู้ที่พบเห็นมอบเงินบริจาคให้ลุงนิด กันเป็นหมื่นบาท แต่สุดท้ายผู้น่าสงสารกลายเป็น ลุงมิจฯ
วานนี้ นางสาวกรวิภา ผู้ที่ถูกนำบัตรพนักงานไปแอบอ้าง เข้าแจ้งความตำรวจ สน.บางซื่อ ดำเนินคดีลุงนิด ข้อหาฉ้อโกง, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
เธอบอกว่า เรื่องที่ลุงนิดโกหกทำให้แม่ที่อยู่ต่างจังหวัดตกใจจนเป็นลม และทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่รู้ว่าลุงทำไปเพื่ออะไร
ทีมข่าวเดินทางไปพบ นางศิริพร แม่ของผู้เสียหาย ที่บ้านพักอำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร แม่บอกว่าตอนรู้ข่าวช็อก แต่พอโทรไปหาลูกสาว พบยังมีชีวิตและไม่ได้เป็นไปตามที่ลุงนิด กุเรื่อง ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอยากให้เอาผิดบริษัทที่ทิ้งบัตรพนักงานที่ลูกสาวคืน แทนที่จะทำลายทิ้ง บัตรหมดอายุตั้งแต่ปี 2563
ตำรวจจับกุม ลุงนิด ได้ที่ตึก สตง. คุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก โดยมี รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง ตำหนิลุงนิดชุดใหญ่ ว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง พร้อมเชิญผู้เสียหายให้มารับฟังด้วย
ลุงนิด ยอมรับว่ากุเรื่อง แต่ปฏิเสธไม่ได้ต้องการเงินบริจาค ระหว่างนั้นก็ยังยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย สังคม และนักข่าว ทั้งนี้ ลุงนิด ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย ยืนยันไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวง
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันจะดำเนินคดีกับลุงนิด ในทุกความผิด เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ รวมไปถึงผู้ที่จะฉวยโอกาสหาผลประโยชน์ ดูคดีนี้เป็นตัวอย่าง
ด้านลูกสาวของลุงนิด ได้ออกมาชี้แจงกับนักข่าว บอกว่าเห็นพ่อในไลฟ์ของสำนักข่าวรู้สึกตกใจ เพราะไม่เจอพ่อมานาน 7-8 ปี เธอจึงโพสต์ตามหาพ่อ
แต่ยืนยันไม่ทราบเรื่องรับบริจาค หลังเรื่องถูกเปิดโปงทราบว่าพ่อคืนเงินไปหมดแล้ว แต่กระแสตีกลับพุ่งมาที่เธอ กล่าวหาว่าร่วมหัวกับพ่อในการหลอกลวง ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
ลูกสาวของลุงนิด เชื่อว่าพ่อทำไปเพราะมีอาการทางประสาท จากปัญหาติดสุรา และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แกออกจากบ้านมานานหลายปี