จับหนุ่มเบญจเพส ทำตัวเป็นนักล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ยึดซากสัตว์หลายชนิด พร้อมอาวุธครบมือ
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่สนธิกำลังบุกจับนักล่าสัตว์ป่าคุ้มครองรายสำคัญ พร้อมของกลางสุดสะเทือนใจ บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอด เขตเตรียมการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ ปฏิบัติการได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ, สายตรวจปราบปรามสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) และตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ได้ร่วมกันวางแผนและเข้าจับกุม นายประกฤษฎ์ อายุ 25 ปี ขณะกำลังกระทำความผิดอยู่ในป่าหลังบ้านห้วยเหลือง (ห้วยชีวิต) หมู่ 5 ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมืองตาก
การจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการทำงานอย่างหนักของเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังและติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัย จนกระทั่งสามารถจับกุมได้พร้อมของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง: ไก่ฟ้าหลังขาว 1 ซาก, กระรอกปลายหางดำ 1 ซาก, นกกระทาดงขาแดง 1 ซาก อาวุธและอุปกรณ์ล่า ปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนดินปืน แก๊ป และลูกตะกั่ว, มีด 1 เล่ม พร้อมกระเป๋าหนังสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ, รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล อีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร 1 คัน
สถานที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอด และเป็นเขตเตรียมการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด การกระทำของผู้ต้องหาจึงเป็นการทำลายระบบนิเวศและส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างร้ายแรง
เบื้องต้น นายประกฤษฎ์ ถูกแจ้งข้อหาหนักถึงสองกระทง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐาน "ล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต" และ "มีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต" นอกจากนี้ ยังถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ฐาน "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต" และ "พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร"
หลังจากการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกตรวจยึดของกลางทั้งหมด และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ท้อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ (เตรียมการ) เป็นผู้ดำเนินการในส่วนของคดี
