วันนี้ (18 มี.ค. 68) พล.ต.ท.ภาณุมาศ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. มีนโยบายให้เร่งปราบปรามคนต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองหรือกระทำผิดกฎหมาย หากพบโดยดำเนินคดีทุกราย กระทั่งเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา ได้มีคนต่างชาติซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของกระเป๋าที่ตกค้าง ไปเพื่อทำการโหลดสัมภาระก่อนการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรที่สนามบินนานาชาติสมุย ตามป้ายแท็กรายชื่อเจ้าของกระเป๋าที่ติดกระเป๋าเดินทาง (TAG) ปรากฏชื่อ MR.AZEEM ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบ เนื่องจากตรวจพบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายช่อดอกกัญชาถูกบรรจุในกระเป๋า
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้นำรายชื่อดังกล่าวไปตรวจสอบบุคคลกับระบบสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่า ชื่อ MR. AZEEM อายุ 26 สัญชาติอังกฤษ ตรวจสอบข้อมูลการแจ้งที่พักอาศัยตาม ม.38 พบว่าได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 68 จึงได้ออกติดตามตัวมายืนยันกระเป๋าตามพิธีการศุลกากรมาดำเนินคดี แต่ไม่พบตัว และรับแจ้งจากพนักงานโรงแรมว่าคนต่างชาติรายดังกล่าวได้เดินทางออกไปแล้วตั้งแต่เช้าของวันที่ 14 มี.ค. 68 ซึ่งสอดคล้องกับเวลาที่เดินทางไปเช็กอินที่สนามบินสมุยและทิ้งกระเป๋าไว้
จากนั้นชุดจับกุมจึงได้สืบสวนจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรมพบว่าในเวลาที่ MR. AZEEM ออกจากโรงแรมมีคนต่างชาติสวมเสื้อสีขาวกางเกงขายาวสีน้ำตาล และเพื่อนอีกคน ได้เดินทางมากับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล สีดำ ทะเบียน ขต 1399 สุราษฎร์ธานี มารับพร้อมกับคนขับ จึงได้สืบสวนพบว่าเป็นรถรับจ้างสาธารณะ ได้ไปรับคนต่างชาติมาจากโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ และให้ขับรถไปรับเพื่อนที่โรงแรม เพื่อไปส่งที่สนามบิน พร้อมกระเป๋าที่นำมาด้วยจากโรงแรมในพื้นที่ ต.แม่น้ำ เพื่อให้ MR.AZEEM ไปเช็กอินเพื่อเดินทางไปยังฮ่องกง และต่อเครื่องไปประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนติดตามตัว MR.AZEEM และชายต่างชาติดังกล่าวมาตลอด
กระทั่งวันที่ 17 มี.ค. 68 หลังจากสืบสวนทราบว่าคนต่างชาติผู้นำกระเป๋าเดินทางมาจากโรงแรมแหงหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่น้ำ นอนพักอาศัยอยู่ที่โรงแรม และพบข้อมูลว่าชื่อ MR.DARRYL อายุ 30 ปี สัญชาติอังกฤษ โดยโรงแรมได้แจ้งให้ทราบว่าบุคคลดังกล่าวและเพื่อน มีพฤติการณ์น่าสงสัยนำเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ๆ มาเก็บไว้ที่ในห้องพักจำนวนประมาณ 12 ใบ และเมื่อเช้าวันที่ 14 มี.ค. 68 ได้นำออกไปกับรถสีดำ จำนวน 2 ใบ ซึ่งสอดคล้องกับห้วงเวลาที่ MR.DARRYL นำไปให้กับ MR.AZEEM จำนวน 1 ใบ และอีกใบยังอยู่ระหว่างสืบสวน นำไปเช็กอินที่สนามบินสมุยเพื่อนำออกไปนอกราชอาณาจักร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าในระหว่างนั้น MR.DARRYL ได้ว่าจ้างรถเอนกประสงค์ สีดำ และรถกระบะตู้ทึบขนส่งสินค้า มาขนกระเป๋าต้องสงสัยจำนวน 10 ใบ ซึ่งเป็นกระเป๋ากัญชาล็อตเดียวกับที่ MR.DARRYL ได้นำไปให้ MR. AZEEM พยายามนำออกนอกราชอาณาจักร กำลังออกไปจากโรงแรม จึงได้ออกติดตามจนพบคนต่างชาติรายดังกล่าวที่ท่าเรือราชา และแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจสอบกระเป๋าเดินทางภายในรถกระบะตู้ทึบ ทะเบียน 2ฒฮ 1316 กรุง้ทพมหานคร พบมีกระเป๋าเดินทางอยู่ภายในรถ จำนวน 10 ใบ พบว่าภายในกระเป๋าทั้ง 10 ใบ เป็นช่อดอกกัญชาแห้งบรรจุในถุงซีนป้องกันกลิ่นทุกใบ
จากการสอบถามคนขับรถคันดังกล่าว แจ้งว่าได้รับการว่าจ้างจากชายชาวต่างชาติให้มาขนกระเป๋าเดินทางจากสมุยเพื่อไปส่งที่ กทม. แต่ไม่ทราบพิกัดที่ชัด ในระหว่างที่ขนของขึ้นรถที่โรงแรมได้มีชายชาวต่างชาติต่อมาทราบชื่อว่า MR.DARRYL เป็นคนจัดการขนกระเป๋าเดินทางมาจากห้องพัก และช่วยขนขึ้นรถ พร้อมนั่งควบคุมการขนส่งมาตลอดทางจนถึงท่าเรือราชา เพื่อเดินทางออกจากเกาะสมุย ซึ่งมาทราบสาเหตุในภายหลังว่าไม่สามารถจัดการส่งช่อดอกกัญชาออกนอกราชอาณาจักรจากสนามบินสมุยได้อีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในการตรวจสอบกระเป๋าเดินทาง จึงเปลี่ยนแผนการลักลอบนำออกนอกราชอาณาจักรกลับไปที่ กทม.อีกครั้ง
โดยเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารการนำพาและเอกสารการครอบครองช่อดอกที่ขออนุญาตต่อนายทะเบียนจาก MR.DARRYL ซึ่งเป็นผู้ครอบครองกัญชาดังกล่าว แต่ MR.DARRYL ไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว MR.DARRYL และกระเป๋าบรรจุช่อดอกกัญชาจำนวน 10 ใบของกลางน้ำหนักรวม 165 กิโลกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่มากเกินกว่าที่บุคคลทั่วไปจะครอบครองไว้ เพื่อใช้ทางการแพทย์หรือใช้ประโยชน์อื่นตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งพฤติการณ์คนต่างชาติรายดังกล่าวมีกัญชาไว้เพื่อส่งออก หรือจำหน่ายจ่ายแจก หรือเพื่อการค้า และสอดคล้องกับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ที่สืบทราบมาว่า MR.DARRYL เป็นผู้จัดการนำช่อดอกกัญชา เพื่อจ้างให้ MR.MOHAMMED พยายามขนออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีพืชสมุนไพรควบคุม(ช่อดอกกัญชา) ไว้เพื่อจำหน่ายหรือเพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 และประกาศกระทรวง สาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 11 พ.ย. 65 ควบคุมมาดำเนินคดีที่ สภ.เกาะสมุย และขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันสกัดกั้นขบวนการขนกัญชาในพื้นที่อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการหลุดรอดไปยังต่างประเทศ และอยู่ระหว่างสืบสวนถึงผู้ว่าจ้างหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ คดีนี้สืบเนื่องมาจากการขยายผลการจับกุมเครือข่ายขนกัญชาข้ามชาติ ที่ผู้ต้องหาชาวต่างชาติแล้วทั้งหมดจำนวน 13 ราย ซึ่งประกอบไปด้วยสัญชาติอังกฤษ 10 ราย มาเลเซีย 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย โรมาเนีย 1 ราย ในความผิดฐาน พยายามนำช่อดอกกัญชาออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ถูกจับทั้งหมดเป็นกลุ่มรับจ้างขนกัญชา ออกไปปลายทางประเทศอังกฤษ และปรากฏยังมีกระเป๋าอีกจำนวน 2 ใบที่ตกค้างและกำลังสืบสวนติดตามตัวคนต่างชาติเจ้าของกระเป๋าเพื่อมาดำเนินคดี เหตุเกิดในพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย
