สะเทือนใจ ! อดีตสามีหึงหวงอดีตภรรยา ตามจ่อยิงศีรษะขณะคร่อม จยย.อาการปางตาย ก่อนปลิดชีพตัวเองหนีผิด
วันนี้ ( 18 มี.ค.68) พ.ต.ท.สุขุม สวัสดิ์ชาติ ร้อยเวร สภ.คอนสาร รับแจ้งเกิดยิงกันเสียชีวิต และบาดเจ็บ ที่บ้านหัวนาม่วง ม.3 ต.คอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นถนนในหมู่บ้าน พบร่างชายสวมเสื้อยืดสีชมพู กางเกงยีนส์ เสียชีวิตในลักษณะนอนหงายปลายเท้ายื่นออกไปทางถนน บริเวณศีรษะมีรอยบาดแผลเป็นรูขนาดใหญ่ และมีเลือดกระจายไปทั่ว ส่วนที่เอวด้านซ้าย ยังพบว่ามีมีดปลายแหลม1 เล่ม พกติดตัวมาด้วย โดยมีดยังอยู่ในฝัก ข้างศพพบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอกตกอยู่ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายวันชนะ และปืนที่ตกอยู่ข้างลำตัว คือปืนของผู้เสียชีวิตเอง โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้เสียชีวิตใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตาย ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากปัญหาส่วนตัว ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดแล้ว
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน โดยญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลคอนสารไปก่อนหน้านี้ สำหรับผู้บาดเจ็บ คือนางพงษ์ เปรมประยูร อายุ 56 ปี เป็นอดีตภรรยา ของนายวันชนะ ผู้เสียชีวิต ถูกจ่อยิงบริเวณหน้าผาก กระสุนฝังในกะโหลกศีรษะ ได้เดินทางไปติดตามอาการของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลคอนสาร แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ทางโรงพยาบาลได้ส่งตัวไปรักษาด่วนที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ล่าสุดยังไม่พ้นขีดอันตราย
สอบถามญาติคนเจ็บ ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปถามหาอดีตภรรยาที่บ้าน แต่ไม่พบก่อนจะขี่รถออกไปตามหาทุกที่ ที่คิดว่าอดีตภรรยาเคยไป จนกระทั่งไปพบนางพงษ์ นั่งค่อม จยย. จอดอยู่บนถนนกลางในหมู่บ้าน ผู้ก่อเหตุได้จอดจยย. พูดคุยประมาณ 10-15 นาที ในลักษณะมีปากเสียงกัน หลังจากนั้น ได้ชักอาวุธปืนจ่อยิงอดีตภรรยาจนล้มหงายหลังลงกับพื้น ก่อนขี่รถหนีไปตามถนนภายในหมู่บ้าน จากนั้นจอดรถทิ้งไว้ แล้วเดินถือปืนกระบอกเดียวกัน มาจ่อยิงที่ศีรษะตัวเองเสียชีวิต
ส่วนเหตุจูงใจคาดว่าน่าจะมาจาก เรื่องหึงหวง และบันดาลโทษะ เนื่องจากทั้ง 2 คนเคยอยู่กินกันมานานหลายปี จากนั้นได้แยกทางกันแต่ยังติดต่อกันอยู่ โดยฝ่ายชายยังให้หยิบยืมเงินทอง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ฝ่ายชายคิดว่าโดนหลอก จึงเกิดการทวงถาม และบรรดาลโทษะก่อเหตุในที่สุด ส่วนสาเหตุที่แท้จริงตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป