ยอดเงินบริจาคช่วยป้าแอ๊ด สามีป่วย ต้องกินข้าวหมา ล่าสุด ทะลุ 8 แสน เตรียมปิดบริจาคเย็นนี้ ป้าแอ๊ด เผย เหมือนได้ชีวิตใหม่ เงินที่ได้จะนำไว้ใช้เป็นค่ารักษาสามี และเช่าห้องระยะยาว ส่วนข่าวของที่คนบริจาคมา จะแบ่งให้กู้ภัยนำไปช่วยคนเดือดร้อนต่อ เพื่อเป็นการแบ่งกันกิน เหมือนนตอนที่ตนเองเคยลำบากมาก่อนหน้านี้
18 มีนาคม 2568 จากเหตุการณ์ที่ ร.ต.ต.พรศักดิ์ เสน่หา รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุบุคคลจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำบางปะกง ด้านหลังวิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ก่อนจะพบนางอัญชนี อายุ 54 ปี หรือป้าแอ๊ด นั่งเหม่อลอยริมท่าแม่น้ำบางปะกง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา จึงทำการช่วยเหลือขึ้นมาด้านบน และสอบถามถึงสาเหตุจนทราบว่า ทำงานหาเงินคนเดียวไม่พอใช้ ค้างค่าบ้าน ค่ารถจักรยานยนต์ หนำซ้ำสามีก็ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ต้องไปแย่งข้าวหมากินเพราะความหิว
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ ( 18 มีนาคม 2568 ) นางขวัญกมล ฉายแสง นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนางจำเนียร สุขสมบูรณ์ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา นำเครื่องอุปโภคจากกองสวัสดิการสิ่งแวดล้อม มอบให้กับป้าแอ๊ดและสามี นอกจากนี้ยังได้พูดคุย ให้กำลังใจ เพื่อให้ป้าแอ๊ด มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อสู้ต่อไป
ทั้งนี้มีหน่วยงานต่างๆ ภาคเอกชน ภาครัฐ หรือแม้มูลนิธิต่างๆ ที่ติดจะเข้ามาช่วยเหลือมอบเงินและเครื่องอุปโภคบริโภคทั้ง อาทิ ตัวแทนจากครอบครัวไทยเศรษฐ (มาเป็นการส่วนตัว) กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI (มาช่วงบ่ายนี้) มูลนิธิป่อเต๊กตึ้ง (มาพรุ่งนี้) ตลอดจนเจ้าของร้านค้าต่างๆที่อยากช่วยให้ป้าแอ๊ดมีงานทำ มีที่พักฟรี รวมถึงท่านเจ้าคุณ พระราชวชิรประชานาถ เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา(ธ) เจ้าอาวาสวัดสมานรัตนาราม ที่นำเงินสดมามอบให้ 10,000 บาทเมื่อวานนี้และพร้อมจะรับป้าแอ๊ดให้ไปทำงานเป็นแม่บ้านที่วัด
ส่วนยอดเงินบริจาค เวลา 12.00 น. นี้ทะลุ 8 แสนบาทแล้ว ซึ่งหลังจากนี้เวลา 6 โมงเย็นของวันนี้ ทางหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ที่เปิดรับจุดส่งต่อสิ่งของให้ป้าแอ๊ดจะปิดรับบริจาคสิ่งของ ข้าวสารอาหารแห้ง และปิดบัญชีรับบริจาค ซึ่งเป็นชื่อของป้าแอ๊ดต่อไป
นางอัญชนี หรือป้าแอ๊ด เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกดีใจ ไม่คิดว่าจะมีคนสงสารและมอบเงิน ข้าวของช่วยเหลือตนเองมากมายขนาดนี้ ซึ่งเงินทั้งหมดตนเองยังไม่กล้าใช้ แต่ได้วางแผนไว้บางส่วนแล้วว่า จะนำเงินส่วนนี้ไปทำอะไร ไปปิดหนี้รถ เช่าห้องระยะยาว ค่ารักษาพยาบาลสามี ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในบ้าน และเงินอีกส่วนหนึ่ง ตนเองจะพาสามีไปทำบุญ ไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา และบริจาคเงินที่ชาวบ้านทั่วประเทศบริจาคมาให้ตน ทำบุญส่งต่อเพื่อให้หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา นำไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนในด้านต่างๆ เป็นการส่งต่อบุญจากผู้ที่ให้เงินตนมาจะได้ร่วมทำบุญไปด้วยกัน ส่วนข้าวของเครื่องใช้ตนเองมองว่าถ้ามากเกินความจำเป็น มันจะเสียหมดอายุ ไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งหลังจากที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา นำสิ่งของที่ประชาชนมาส่งมอบให้ตนเองแล้ว จะแบ่งเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกตนเองจะเก็บไว้แค่พอกิน พอใช้ 2 คนตายาย ส่วนที่ 2 จะประสานประธานชุมชนท่าข้าม ช่วยนำไปแจกคนที่เดือดร้อนในชุมชนและเพื่อนข้างห้องเช่า และส่วนที่ 3 จะส่งต่อมอบกลับไปให้หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา นำไปแจกจ่ายให้กับคนที่เดือดร้อนต่อไป และส่วนสุดท้ายหลังจากเรื่องนี้จบลง ตนเองจะตระเวนขี่รถจักรยานยนต์ของตน นำข้าวสาร อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง น้ำดื่ม ไปแจกจ่ายให้กับคนเร่รอนตามสถานที่ต่างๆ ได้มีข้าวอาหารกิน ปะทังชีวิต เพราะตนเองเคยลำบากมาถึงที่สุด และโชคดีที่ประชาชนคนไทยช่วยเหลือตนเอง