รัฐ-เอกชน จับมือคุมเข้มบริษัทม้า หลังมิจฉาชีพเปลี่ยนกลยุทธ์จากบัญชีม้าบุคคลธรรมดา เป็นบัญชีม้านิติบุคคล เลี่ยงกฎเหล็ก โอนเงินได้ครั้งละมาก ๆ โดยไม่ต้องสแกนใบหน้า
หน่วยงานภาครัฐ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานด้านความมั่นคง ร่วมกัน ยกระดับมาตรการจัดการบัญชีม้านิติบุคคล หลังพบว่ามิจฉาชีพเปลี่ยนกลยุทธ์จากการใช้บัญชีม้าบุคคลธรรมดา มาใช้บัญชีในนามบริษัทเพื่อรองรับธุรกรรมทางการเงินขนาดใหญ่ หลอกลวงประชาชนมากขึ้น
ตำรวจ-ภาครัฐ เร่งปราบปรามเครือข่ายบัญชีม้า พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ระบุว่า อาชญากรรมทางเทคโนโลยีเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้บัญชีนิติบุคคลโอนเงินผิดกฎหมาย ตำรวจจึงต้องร่วมมือกับ ธปท. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงาน ปปง. ในการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและขยายผลสืบสวน เพื่อปิดช่องโหว่ของขบวนการนี้
พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการ บช.ก. เสริมว่า การใช้บัญชีนิติบุคคล ช่วยให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินครั้งละมาก ๆ โดยไม่ต้องสแกนใบหน้า ทำให้การหลอกลวงประชาชนเกิดขึ้นได้ง่าย ตำรวจจึงต้องดำเนินคดีเข้มข้น ทั้งต่อ ผู้เปิดบัญชี ผู้ว่าจ้าง และผู้ที่อยู่เบื้องหลังเครือข่าย
นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ต้องเพิ่มมาตรการตรวจสอบ หากพบว่านิติบุคคลมี กรรมการหรือหุ้นส่วนเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของสำนักงาน ปปง. หรือเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นบัญชีม้า สถาบันการเงินสามารถระงับธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ รวมทั้งตรวจสอบธุรกรรมย้อนหลังเพื่อขยายผลไปยังเครือข่าย
สำหรับมาตรการใหม่ ป้องกันบัญชีม้านิติบุคคล
1.กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คัดกรองผู้ขอจดทะเบียน หากพบบุคคลต้องสงสัยต้องแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ก่อนจดทะเบียน
2.สำนักงาน ปปง. กำหนดแนวทางจัดการนิติบุคคลเสี่ยง และแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีต้องสงสัยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.ศูนย์ AOC ให้บริการสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง รับแจ้งเหตุและประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4. เดินหน้าปราบปราม-ป้องกันประชาชนถูกหลอก
หน่วยงานรัฐคาดหวังว่ามาตรการเหล่านี้ จะช่วยลดปัญหาการใช้บัญชีนิติบุคคลในอาชญากรรมออนไลน์ และปกป้องประชาชนจากการถูกหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประชาชนที่สงสัยว่าถูกหลอก หรือพบความผิดปกติ สามารถแจ้ง ศูนย์ AOC สายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง