ไรเดอร์สาววัย 49 น้อยใจตำรวจให้หาหลักฐานเอง หลังถูกชนแล้วหนี แขนหักทำมาหากินไม่ได้ พยายามขอภาพวงจรปิดทางหลวง อ้างต้องมีหนังสือจากผู้ว่าฯ ตัดพ้อเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความไว้ว่า “ เหตุเกินเมื่อวานคับ วันนี้เดินเรื่องจาก #ทางหลาวงทางด่วน ให้หากล้องวงจรปิด แต่เราไม่ไช่คดีใหญ่ ไม่ไช่ดารา ตำรวจรัตนาธิเบศร์ ให้เราหาหลักฐานเอง ผมบอกเลยผมตามสุดแน่คับ ผมไม่ยอม ถ้าเพื่อนหาช่องทางที่จะหากล้องได้ช่วย แชร์หน่อยนะคับ ทางด่วงงามวงวานมุ่งหน้าแครายฝากด้วยคับฝากด้วยคับ”
ล่าสุด (13 มี.ค.68) นางสมบรูณ์ อายุ 49 ปี ผู้เสียหายพร้อมสามี เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ถูกรถยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ เฉี่ยวชนท้ายรถจักรยานต์ของผู้เสียหาย จนล้มทำให้ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณเบ้าตา เท้า และแขนขวาหัก ก่อนหลบหนีไป
ทางผู้เสียหาย จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ต้องไปหาหลักฐานเองทุกอย่าง ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อคู่กรณีได้ และไม่สามารถติดต่อขอกล้องวงจรปิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาเป็นหลักฐานทางคดีได้
นางสมบูรณ์ เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังถูกชนล้มเลือดอาบเต็มตัว พอลุกขึ้นมามองไม่เห็นป้ายทะเบียนรถคันที่ชน รู้เพียงว่าเป็นรถเก๋ง จึง รีบไปที่โรงพยาบาลและให้แฟนไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี แต่ที่ช้ำใจ คือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ช่วย คงเป็นเพราะตนเองเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่ใช่คนใหญ่คนโต ถ้าตนเองผิดจริงยอมรับอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ถูกชนแล้วหนี จนได้รับบาดเจ็บ อยากฝากบอกถึงคนที่ชนให้ออกมารับผิดชอบเรื่องที่ทำ ไม่ใช่ชนแล้วหนี เพราะตอนนี้ตนเองไม่มีรายได้ แขนก็หักไปขับรถไม่ได้ ต้องใช้เวลารักษาตัวอีกนาน ลูกก็ยังเรียนอยู่ต้องทำมาหากินช่วยครอบครัว
ขณะที่ สามีผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุต้องไปดูผู้เสียหายที่โรงพยาบาล จึงให้ทางไรเดอร์เข้าไปช่วยแจ้งความแทน แต่ตำรวจพูดตอกกลับมาว่า " ถ้ารู้ว่าผิดไม่ต้องมาตามเรื่องนะ เพราะว่าเสียเวลา " พอรู้ดังนั้นจึงโมโหมาก รีบเดินทางไปที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อมาถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพูดแบบนี้ได้ยังไง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่ได้พูด และบอกว่าจะนัดคู่กรณีให้มาเคลียร์ให้เรื่องจบ ตำรวจบอกจะตามคดีให้ แต่ให้พวกตนเองไปหาหลักฐาน และ หากล้องวงจรปิดเอง จึงรู้สึกน้อยใจ
ขณะนี้ พยายามไปติดตามขอกล้องวงจรปิดที่กรมทางหลวง แต่ถูกตอกกลับมาว่า ให้ไปขอใบอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด โดยสรุปแล้วตำรวจช่วยเราไม่ได้เลย บอกจะต้องรอ 15 วันถึง1เดือน ถ้ารอขนาดนั้นเรื่องคงจะเงียบ จึงอยากให้นึกถึงประชาชนตัวเล็ก ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่รู้จะไปพึ่งใคร