ผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว ชาวออสเตรเลีย คนหนึ่ง เป็นผู้ป่วยรายแรกที่ออกจากโรงพยาบาล พร้อมกับติดตั้ง “หัวใจเทียม” ไว้ในทรวงอก หลังจากผ่านการใช้งานครบ 100 วัน ก็ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจที่ได้รับการบริจาคมาเรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (12 มี.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายแพทย์แดเนียล ทิมส์ เผยว่า ชายชาวออสเตรเลีย อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว ที่เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่าย “หัวใจเทียม” ที่โรงพยาบาลเซนต์วินเซนต์ ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา
ขณะนี้ผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยคนแรกที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ โดยที่ยังมีหัวใจเทียม (BiVACOR) ติดตั้งอยู่ในทรวงอก ซึ่งทำหน้าที่เหมือนปั๊มสูบฉีดเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากผู้ป่วยใช้ชีวิตด้วยหัวใจเทียมอยู่นานถึง 100 วัน ระหว่างผู้ป่วยกำลังรอการปลูกถ่ายหัวใจจากผู้บริจาค ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดสำหรับผู้ป่วยที่ใช้หัวใจเทียม โดยผู้ป่วยคนดังกล่าวเพิ่งผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจที่ได้รับการบริจาคเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ มีผู้ป่วย 5 คน ในสหรัฐฯ ใช้หัวใจเทียมเต็มที่ได้เพียง 27 วัน และทุกคนได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากผู้บริจาค ก่อนออกจากโรงพยาบาลทุกคน
ทั้งนี้ ความหวังสูงสุดของนายแพทย์แดเนียล ทิมส์ ผู้พัฒนาหัวใจเทียม (BiVACOR) ขึ้นมา คือ ให้ทำหน้าที่แทนหัวใจจริงได้อย่างสมบูรณ์ในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันผู้ป่วยที่รอรับการบริจาคหัวใจจะเสียชีวิตระหว่างรอปลูกถ่ายหัวใจถึง 25%