ระทึกกลางถนน ตำรวจอยุธยาฯ สกัดขบวนการลักลอบขนชาวจีนหลบหนีเข้าเมือง ชาวจีนผู้ถูกจับกุม อ้าง ต้องการมาหางานทำที่กรุงเทพฯ โดยหลบหนีมาทางช่องทางธรรมชาติ
ตำรวจทางหลวงอยุธยาสนธิกำลังร่วมกับตม.อยุธยา จับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน จนกระทั่ง เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 11 มีนาคม 2568 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา สนธิกำลังออกสำรวจตรวจสอบเส้นทาง พบรถยนต์กระบะแคป ต้องสงสัย 2 คัน คันที่ 1 รถยนต์ กระบะแคป ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน เพชรบูรณ์ คันที่ 2 รถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน พระนครศรีอยุธยา ขับขี่มาด้วยความเร็ว ลักษณะติดฟิล์มมืดทึบ ขับขี่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ทำให้ต้องสงสัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์กระบะทั้ง 2 คัน
จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม. 3 – 4 ถนนสายเอเซีย(ขาเข้า) ในพื้นที่ ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ พบว่าคันที่ 1 รถยนต์ กระบะแคป ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน เพชรบูรณ์ มี นายนนท์ อายุ 29 ปี ชาว อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เป็นคนขับ ภายในรถมีบุคคลที่นั่งโดยสารคล้ายชาวต่างชาติ จำนวน 3 คน จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นตรวจสอบพบ รายที่ 1 ชื่อ เหมิง จี ยู อายุ 24 ปี มีหนังสือเดินทาง สัญชาติจีน พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตเป็นเวลา 117 วัน และ ราย ที่ 2 ชื่อ หวง เลอ จาง อายุ 32 ปี มีหนังสือเดินทาง สัญชาติ จีน พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตเป็นเวลา 123 วัน และรายที่ 3 ชื่อ หลิว เลอ ชิง อายุ 44 ปี มีหนังสือเดินทาง สัญชาติ จีน พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตเป็นเวลา 117 วัน
คันที่ 2 รถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน พระนครศรีอยุธยา มีนายกร อายุ 31 ปี ชาว อ.วังเจ้า จ.ตาก เป็นคนขับ จากนั้นตรวจสอบภายในรถยนต์พบว่ามีบุคคลที่นั่งโดยสารคล้ายชาวต่างชาติจำนวน 4 คน จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีเอกสารถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 2 คนและตรวจสอบพบว่า อีก 2 คน มี นาย ลี เจียง พิง อายุ 29 ปี สัญชาติ จีน และ นายเพิง โย เคียว อายุ 28 ปี สัญชาติ จีน เป็นคนต่างด้าวสัญชาติจีน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
จากการสอบถาม นายกร คนขับ ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 21.30 น. ได้รับการติดต่อจากเพื่อน(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง)ให้ไปรับคนจีนมาจาก จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางกรุงเทพมหานคร ได้ค่าจ้างจำนวน 6,500 บาท จึงมาด้วยกันพร้อมกัน 2 คัน โดยรับว่าได้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวพร้อมอีกคัน บรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ
คันที่ 1 สอบถาม ชาวจีน ผ่านล่ามแปลภาษาจีนให้การยอมรับว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาทั้ง 3 คน “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
คันที่ 2 สอบถาม ชาวจีน ให้การยอมรับว่าผ่านล่ามแปลภาษาจีน ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำงานในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อกล่าวหา คนขับรถทั้ง 2 คัน ข้อหา “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ”
ส่วน ชาวจีนที่มาในรถคันที่ 1 “ เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ”
ชาวจีนที่ในรถคันที่ 2 ข้อหา “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และควบคุมตัวพร้อมของกลาง รถทั้ง 2 คัน นำส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.ตม.3 ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป