เจาะประเด็นข่าว 7HD - เจ้าหน้าที่ปิดเมืองล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ ก่อเหตุอุกอาจ บุกกราดยิง อส. และระเบิดคาร์บอมบ์ ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก พบใช้ระเบิดน้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม
ภาพกล้องวงจรปิด เห็นคนร้ายราว 10 คนพร้อมอาวุธปืนครบมือ นั่งมาในท้ายรถกระบะ 1 คัน และรถเก๋ง 1 คน ขับผ่านมาทางถนนหน้าโรงเรียนสุไหงโก-ลก ซึ่งอยู่ติดกับที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก
เมื่อถึงจุดตรวจหน้าที่ว่าการอำเภอฯ คนร้าย เปิดฉากยิงถล่มป้อมยาม อส. ก่อนกระโดดลงจากรถเปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงถล่ม อส. พร้อมขว้างไปป์บอมบ์
จากนั้นรถเก๋งที่ประกอบ "คาร์บอมบ์" ค่อย ๆ ไหลเข้าไปในที่ว่าการอำเภอฯ แล้วคนร้ายจุดชนวนระเบิด เสียงดังสนั่น แล้วคนร้ายก็ล่าถอย
เหตุการณ์นี้ทำให้ อส. เสียชีวิต 2 นาย คือ หมู่ใหญ่มูฮำหมัดซาบรี นะสะวัน และอาสาสมัครฯ ทศพล พายพิมพ์ ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 9 คน แบ่งเป็น เจ้าหน้าที่ อส. 7 นาย และชาวบ้านในพื้นที่อีก 2 คน
ขณะที่เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ EOD เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ รอบ ๆ และในที่ว่าการอำเภอสุไหงโกลก พบสะเก็ดระเบิด และเศษชิ้นส่วนรถยนต์ กระจัดกระจาย แรงระเบิด ทำให้อาคารเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะ หอประชุม แรงระเบิดอัดกับเสาจนทรุดตัว
นอกจากนี้ สำนักงานเทศบาลเมืองสุไหงโกลก ที่อยู่ติดที่ว่าการอำเภอสุไหงโกลก ก็ถูกแรงอัดระเบิดทำให้กระจกห้องทำงาน แตกหลายบาน
พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนให้ข้อมูลว่า กลุ่มที่ก่อเหตุ เป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่อำเภอสุไหงปาดีและอำเภอสุไหงโก-ลก หลังก่อเหตุ บางส่วนหลบหนีข้ามชายแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน และบางส่วนยังอยู่ในพื้นที่ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่กดดันแล้วส่วนสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ ก็สั่งให้หน่วยงานในพื้นที่ปรับแผนดูแลรักษาความปลอดภัย
สำหรับรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ จากการตรวจสอบ พบว่ามีการซื้อขายจากเต็นท์รถที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 6-7 มีนาคมที่ผ่านมา แล้วโอนลอย ก่อนจะมีการนำเข้ามาใช้งานในพื้นที่ ซึ่งต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินที่มีการโอนเงินซื้อขายด้วย ส่วนป้ายทะเบียน พบว่า เป็นป้ายทะเบียนปลอม
ด้าน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ขณะนี้การทำงานของตำรวจคืบหน้าพอสมควร แต่ก็ต้องเก็บพยานหลักฐานอย่างละเอียด พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้เดินทางมาก่อเหตุและหลบหนี ส่วนระเบิดพบว่า มีการบรรจุในถังก๊าซกุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม น้ำหนักระเบิดประมาณ 90-100 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
ส่วนรถกระบะ ที่คนร้าย ใช้เป็นยานพาหนะไปก่อเหตุนั้น นายลุกมาน แวดือเระ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลริโก๋ อำเภอสุไหงปาดี แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า พบรถกระบะ อีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีบรอนซ์เงิน ที่เป็นรถต้องสงสัย ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้านในพื้นที่ บ้านกูวา ตำบลริโก๋ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตรวจสอบรถคันนี้แล้ว
และช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีการรดน้ำศพ อส.ทศพล พายพิมพ์ ที่ฌาปนสถานวัดชลเฉลิมเขต อำเภอสุไหงโก-ลก ท่ามกลางความโศกเศร้า ของเพื่อนร่วมงาน และญาติ ๆ ซึ่ง อส.ทศพล เป็น 1 ใน 2 คน ที่เสียชีวิต หลัง อส.ทศพล ได้ยินเสียงปืน แล้วขี่รถจักรยานยนต์ กำลังจะไปช่วยเพื่อน อส. แต่พบกับคนร้ายที่กำลังล่าถอย จึงยิงปะทะ ก่อนที่ตัวเองจะ ถูกยิงเสียชีวิต