เช็กชื่อ “บอร์ด กคพ.” หักอก “ทวี” ส่งผล “ฮั้วเลือก สว.” ไปไม่ถึง “อั้งยี่”
สืบเนื่องจากการตอบโต้ต่อเนื่อง ระหว่างสมาชิกวุฒิสภา และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติ ต่อกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับร้องเรียนคดีฮั้วเลือก สว. โดยขอให้รับเป็นคดีพิเศษ และ อาจสอบโยงไปถึงความผิดฐาน “อั้งยี่-ซ่องโจร” ด้วย
แต่การจะรับเป็นคดีพิเศษในฐานความผิดดังกล่าว ต้องใช้มติเสียง 2 ใน 3 หรือ 15 เสียง จากองค์ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) 22 เสียง รวมทั้ง หลากหลายความเห็นที่ย้ำว่า ดีเอสไอไม่มีอำนาจพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะเป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่ทำให้การประชุม กคพ. ครั้งก่อน ยังไม่อาจลงมติในประเด็นนี้ได้
ล่าสุด (6มี.ค.68) มีการประชุม กคพ. แต่มีผู้เข้าร่วมประชุม 18 คน ความเป็นไปได้ที่จะใช้มติเสียง 2 ใน 3 เพื่อรับเป็นคดีพิเศษในฐานความผิด “อั้งยี่” โดยไม่หมิ่นแหม่ต่อการใช้อำนาจเกิดขอบเขต ตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต ย่อมเป็นไปได้ยาก จึงมีการพิจารณาเพียงฐานความผิดฟอกเงิน ซึ่งอยู่ในอำนาจที่อธิบดี ดีเอสไอ สามารถพิจารณารับเป็นคดีพิเศษเองได้ แต่ก็ยังนำข้อสงสัยบางประการมาสอบถามต่อที่ประชุม กคพ. ก่อนจะมีมติเห็นชอบ ด้วยคะแนน 11 ต่อ 4 และ งดออกเสียง 3 ว่า ดีเอสไอ สามารถรับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงินได้เท่านั้น และ มีรายงานข่าวการลงมติของกรรมการ กคพ. ดังนี้
ไม่เห็นชอบ 4 คน ประกอบด้วย
- นายนพดล เกรีฤกษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (ผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา)
- นายจิรานุวัฒน์ ธัญญะเจริญ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกฎหมาย (ผู้แทนผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย)
- นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง (ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย)
- พล.ต.อ. มนู เมฆหมอก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการปราบปรามผู้มีอิทธิพล
งดออกเสียง 3 คน ประกอบด้วย
- นายณรงค์ งามสมมิตร ที่ปรึกษากฎหมาย (ผู้แทนปลัดกระทรวงพาณิชย์)
- นางเยาวลักษณ์ นนทแก้ว อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ (ผู้แทนอัยการสูงสุด)
- นายอรรถพล อรรถวรเดช ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง (ผู้แทนปลัดกระทรวงการคลัง)
ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย
- พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งตัวแทนมา แต่ก็ไม่ได้เข้าร่วม
- พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการสอบสวนคดีอาญา
- พล.ต.ท.สำราญ นวลมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินก็ไม่ได้ร่วมประชุม
ขณะที่ นายเพ็ชร ชินบุตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ มาลงชื่อเข้าร่วมประชุม และขอออกจากที่ประชุมก่อน เพราะต้องเดินทางไปต่างประเทศ