ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระงับการให้ความช่วยเหลือทางทหารกับยูเครน พร้อมจวกประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ว่า “ไม่ต้องการสันติภาพ” และ “ยูเครนควรซาบซึ้งในบุญคุณที่สหรัฐฯ”
วันนี้ (4 มี.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “จุดจบของสงครามยังอยู่อีกยาวไกล” ทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความตอบโต้ผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า นี่เป็นคำพูดที่แย่ที่สุดของเซเลนสกี และสหรัฐฯ จะไม่ทนอีกต่อไป ชายคนนี้ไม่ต้องการสันติภาพ ตราบเท่าที่สหรัฐฯ และยุโรปยังหนุนหลัง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ. 68) ที่ผ่านมา การประชุมระหว่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” และ “โวโลดิมีร์ เซเลนสกี” ที่ทำเนียบขาวเพื่อหารือเรื่อการยุติสงครามยูเครน-รัสเซีย และข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุ นั้นไม่ราบรื่นและมีการโต้คารมกัน หลังจากนั้น “เซเลนสกี” ถูกเชิญให้ออกจากทำเนียบขาว และยกเลิกการแถลงข่าวร่วมกัน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติตึงเครียดมากขึ้น
ทางทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ว่า จะระงับการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน จนกว่ายูเครนจะเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย นอกจากนี้ “โดนัลด์ ทรัมป์” ยังกล่าวอีกว่า ยูเครนควรซาบซึ้งในบุญคุณที่สหรัฐฯ คอยช่วยเหลือยูเครนมาตลอด
ด้านประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้กล่าวในวิดีโอแถลงประจำวัน ว่า ยูเครนจะดำเนินการทางการทูตอย่างเหมาะสม เพื่อยุติสงครามกับรัสเซียที่ยืดเยื้อมา 3 ปี โดยเร็วที่สุด ยูเครนต้องการสันติภาพที่แท้จริง และยูเครนต้องการการรับประกันความปลอดภัยจากชาติตะวันตก