“สว.สีน้ำเงิน” ตบเท้าขย่ม “ทวี-ดีเอสไอ” เตือนรับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ ระวังถูกร้อง “ยุยงปลุกปั่น-ล้มล้างการปกครอง”
การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (4 มี.ค.68) พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เสนอญัตติขอให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย หวังนำข้อเสนอแนะส่งต่อรัฐบาล ปรับปรุงการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นที่พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เคลื่อนไหวเรื่องที่จะพิจารณารับหรือไม่รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ ในวันที่ 6 มีนาคมนี้
โดยพลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ ย้ำว่า การที่ดีเอสไอพยายามที่จะให้คณะกรรมการคดีพิเศษ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เพื่อให้มีอำนาจหน้าที่ ดำเนินการตามข้อกล่าวหาการฮั้วเลือก สว. อาจเป็นการกำลังก้าวก่าย เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งบุคคลธรรมดา หรือ อัยการ สามารถยื่นร้องต่อศาล เพื่อให้วินิจฉัยและออกคำสั่งยุติการกระทำดังกล่าวได้
และ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 116 อาจจะเข้าข่ายกรณียุยงปลุกปั่น ให้กระทำการเกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน โดยมีเจตนาจะเปลี่ยนแปลงกฎหมายของแผ่นดิน หรือทำให้เกิด ความไม่สงบในราชอาณาจักร
ดังนั้น จึงสมควรที่วุฒิสภาจะได้อภิปรายระดมความคิดเห็น เพื่อพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อ เสนอรัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป
จากนั้น บรรดา สว. ได้ทยอยอภิปรายตั้งคำถามกับการทำหน้าที่ของพันตำรวจเอก ทวี และ อธิบดีดีเอสไอ ว่าได้ดำเนินการในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน จนเกิดผลสัมฤทธิ์แล้วหรือไม่ ทั้งเรื่องแก๊งคอลเซนเตอร์ การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ขณะที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.มองว่า สว. กำลังตกเป็นที่จับจ้องของสังคม การแสดงความเห็นใด ก็เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล อย่านำวุฒิสภามาปกป้องตัวเอง ไม่ผิดก็อย่าร้อนตัว อย่ากลัว และ เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ให้ประชาชนหายสงสัย
จากนั้น พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ สรุปในช่วงท้ายญัตติว่า คดีเลือกตั้งไม่ได้อยู่ในอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอแต่อย่างใด และ จะขอนำข้อสรุปของสมาชิกวุฒิสภาเสนอต่อรัฐบาลเพื่อดำเนินการต่อไป อีกทั้ อาจมีการขอเปิดอภิปรายทั่วไป พันตำรวจเอก ทวี กรณีผิดมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง พร้อมยื่นถอดถอนในโอกาสต่อไป และจะพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ว่ามีการทุจริตต่อหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย