ชาวบ้านผวา! ชายหลอนยาเกิดคลุ้มคลั่ง เจ้าหน้าที่รวบทันควัน ตะลึงพื้น-ฝาบ้าน ถูกงัดเอาไปขายแทบหมด เพื่อซื้อยามาเสพ
เมื่อเวลา 11.00 น. นายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอภูเขียว ได้รับแจ้งจากชาวบ้านตาดภูทองหมู่ที่ 12 ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ มีคนหลอนยาบ้าคลั่งอาละวาดทุบทำลายสิ่งของในบ้านตัวเอง และเดินอาละวาดไปตามถนนในหมู่บ้าน สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนในละแวกใกล้เคียง จึงได้มอบหมายให้ ว่าที่พันตรีสมศักดิ์ อุ้ยปัฌชาวงศ์ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยนายสุนทร สาแก้ว ปลัดอำเภองานป้องกัน และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เข้าระงับเหตุ
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ได้เดินขึ้นบันไดบ้านไปยังชั้น 2 ตัวบ้าน ก็พบฝาบ้าน พื้นบ้าน ที่เป็นไม้จำนวนมาก ถูกถอดออก ซึ่งได้พบนายทนงค์ศักดิ์ อายุ 50 ปี ที่อาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ที่อยู่ในอาการสงบลงแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเดินอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ตกร่องพื้นบ้านที่ยังเหลือครบเพียงบริเวณที่นอนของนายทนงค์ศักดิ์ ส่วนผู้เป็นแม่และน้องชาย ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว ส่วนผู้เป็นพ่อเสียชีวิตนานแล้ว และยังพบถาดขี้เถ้า ซึ่งนายทนงค์ศักดิ์ บอกว่าใช้เป็นพื้นที่จุดยากันยุงเพื่อไล่ยุง แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ
จากการสอบถามทราบว่า ได้ถอดแผ่นไม้ออกไปขายตามร้านรับซื้อไม้เก่า เพื่อหาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยเกลี้ยกล่อม และใช้มาตรการควบคุมตัวอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันอันตรายต่อตัวผู้ป่วยและประชาชนโดยรอบ
โดยก่อนหน้านี้ชาวบ้านบอกว่า นายทนงค์ศักดิ์ ได้เสพยาบ้ามานานแล้วกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ยอมทำงาน ไม่มีอาชีพอะไร ก่อนหน้านี้ผู้เป็นแม่เกือบถูกนายทนงค์ศักดิ์ บีบคอตายมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังขอเงินแม่ไปซื้อยาบ้ามาเสพไม่ได้ ทั้งแม่ น้อง คนอื่น ๆ ในบ้านจึงได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ปล่อยให้นายทนงค์ศักดิ์ อาศัยอยู่บ้านคนเดียว แต่ละวันเอาแต่เดินขอเงินชาวบ้านไปซื้อยาบ้ามาเสพ หากไม่ได้เงินซื้อยาบ้ามาเสพจะเกิดอาการคลั่ง ขู่ทำร้ายชาวบ้านไปทั่วหมู่บ้าน ตอนเย็นจะไปกวนพระในวัดขอข้าวกินทุกวัน
จากการตรวจปัสสาวะ พบมีสารเสพติดเป็นยาบ้า ซึ่งเจ้าตัวได้ยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาเมื่อเช้ามา 1 เม็ด ซึ่งที่ผ่านมานายทนงค์ศักดิ์ มีประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตเวช แต่ขาดการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอาการกำเริบขึ้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว ส่งโรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด