หมอ-พยาบาล พูดไม่ดี ห้ามตบตี ! เมียมือตบขอโทษพยาบาล ยอมรับผิด

เช้านี้ที่หมอชิต - ตบหน้า 2 ที สะเทือนไปทั้งประเทศ เริ่มเสียงแตก ! ปมเหตุญาติผู้ป่วยตบพยาบาลสาว ฝั่งครอบครัวผู้ก่อเหตุยอมรับว่าผิดจริง โดยให้เหตุผลว่าที่ลงมือไปเพราะบันดาลโทสะ จากคำพูดที่ฟังแล้วไม่ค่อยดี เรื่องนี้ ด้านผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ขออย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือ หากไม่ไหวจริง ๆ ให้แจ้งผู้ใหญ่ในพื้นที่

เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง พร้อมเพื่อนพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ เดินทางเข้าพบ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้ช่วยดำเนินการเอาเรื่องหนุ่มกร่าง ตบหน้าพยาบาลสาวจนเสียขวัญ

ประเด็นที่หลายคนตั้งคำถามว่าพยาบาลสาวพูดแรงไปกับญาติผู้ป่วยหรือเปล่า ที่บอกว่า "สูญเสียแม่อีกคนยังไม่พอ อยากจะสูญเสียลูกอีกคน ยอมรับได้ใช่ไหม พาเด็กออกไปเดี๋ยวนี้" คำ ๆ นี้ที่ทำให้ญาติคาใจ และบันดาลโทสะ ตบไป 2 ที

ทำให้เสียงแตกเป็นสองฝั่ง บางคนก็เห็นด้วยที่ว่าเจ้าหน้าที่บางคนพูดกับผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยแรงเกินไป ยิ่งอยู่ระหว่างที่สภาพจิตใจค่อยข้างแย่ เป็นห่วงญาติที่นอนป่วยอาการหนัก ยังต้องมาเจอคำพูดแดกดันรุนแรง เข้าใจว่าทำงานหนัก แต่ก็ควรจะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นด้วย

ด้านผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ยอมรับ ตนเองก็เคยเจอพยาบาลพูดจาไม่ดีใส่ แต่อยากให้เข้าใจว่าทุกคนมีอารมณ์โมโหได้ อยากให้ดูที่เจตนามากกว่า ซึ่งหากพบบุคลากรทางการแพทย์ทำตัวไม่เหมาะสม ขอให้ร้องเรียนทางต้นสังกัดมากกว่าใช้กำลัง ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นคงปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องให้บทเรียนกับคนกร่าง และเตรียมฝึกอบรมวิชาป้องกันตัวแก่บุคลากรทางการแพทย์

หากมองกลับไปในวันนั้น ถ้าฝั่งพยาบาลเลือกปล่อยให้เด็กเข้ามา เด็กก็อาจเกิดการติดเชื้อขึ้นมาได้ จึงเป็นการพูดที่ป้องกันไว้ก่อน ตอนนี้เป็นห่วงสภาพจิตใจของเพื่อนที่ถูกทำร้าย ขนาดตนเองอยู่ในเหตุการณ์ก็ขวัญเสียด้วย 

ส่วนอาการบาดเจ็บของผู้เสียหาย ทาง นายแพทย์สุรวิทย์ ศักดานุภาพ เผยว่า น้องพยาบาลมีอาการฟกช้ำบริเวณใบหน้า จะใช้เวลารักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์

แต่ที่อาการรุนแรงคือ แก้วหูอักเสบ ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินและทำการรักษาว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน

เรื่องคดีความ พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผู้กำกับการ สภ.เมืองระยอง เผยว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายสันพงษ์ อายุ 46 ปี ทำงานอยู่ที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในอำเภอปลวกแดง ขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่

ขณะที่ภรรยาของผู้ก่อเหตุ ขอโทษพยาบาล และโรงพยาบาล ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าไม่เห็นด้วยที่สามีก่อเหตุรุนแรงแบบนี้ หากสามีผิดก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

แต่อยากฝากถึงบุคลากรทางการแพทย์ด้วย ส่วนตัวเข้าใจว่างานมันเหนื่อย มันเครียด แต่เวลาที่ชาวบ้านไปโรงพยาบาลก็อยากให้พยาบาลพูดดี ๆ เหมือนกัน

เรื่องนี้ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ก็ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ญาติคนไข้ตบพยาบาลเกิดจากความเครียดในการทำงานและความเครียดในการรอการรักษา ซึ่งรัฐต้องแก้ไขในเชิงป้องกัน เพราะข่าวแบบนี้พบบ่อยครั้ง"

จากนั้นก็กลายเป็นดรามา ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ไปในทิศทางเดียวกันว่า จะด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ควรทำร้ายคนอื่น, คนก่อเหตุไม่ได้รอการรักษา ควรไปแก้ไขที่นิสัยผู้ก่อเหตุ, ถ้าคนรอการรักษาเครียดจากการทำงาน แล้วพยาบาลไม่เครียดจากการทำงานเหรอ