สนามข่าว 7 สี - "หมอธวัชชัย" ซึ่งเดินทางไปสหรัฐฯ รับโทรศัพท์มือถือของ "แตงโม นิดา" จาก "บังแจ็ค" เดินทางกลับถึงเมืองไทยแล้ว ก่อนส่งโทรศัพท์ให้ DSI เก็บข้อมูล เพื่อสืบสวนคดีการเสียชีวิต
ทันทีที่ "หมอธวัชชัย" เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็ได้ส่งมอบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งห่อด้วยพลาสติก 2 ชั้นให้หน่วยนิติเวชวิทยาของ DSI ตรวจสอบ DNA อย่างละเอียด ทั้งถุงพลาสติกที่ห่อหุ้มโทรศัพท์ รวมไปถึงเคสโทรศัพท์ และมีการเก็บ DNA ของ "หมอธวัชชัย" ไว้ด้วย
ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังพิสูจน์หลักฐาน "หมอธวัชชัย" ได้วิดีโอคอลหา "บังแจ็ค" เพื่อสอบถามรหัส แต่ "บังแจ็ค" บอกว่า จะบอกก็ต่อเมื่ออยู่ในที่ปลอดภัย และบอกว่ามีคนเสนอเงิน 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับโทรศัพท์
"หมอธวัชชัย" ยืนยันว่า ตนเองได้ดูทุกอย่างในโทรศัพท์แล้ว โดยใช้วิธีถ่ายคลิปเก็บไว้ เพื่อไม่สัมผัสกับโทรศัพท์ พบว่ามีหลักฐานเด็ดเกี่ยวกับการทำลายหลักฐาน ส่วนการฆาตกรรมอาจมีหลักฐานไม่ถึง แต่ยืนยันว่าตั้งแต่เวลา 2 ทุ่มกว่า ๆ ในวันเกิดเหตุ (24 ก.พ.65) ก็ไม่พบภาพของ "แตงโม นิดา" ในโทรศัพท์เลย
ผลการตรวจพิสูจน์ว่าเป็นโทรศัพท์ของ "แตงโม นิดา" จริงหรือไม่ และภายในเครื่องมีหลักฐานอะไรบ้าง คาดว่าจะทราบผลในวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ โดย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ บอกว่า จากหลักฐานที่มีตอนนี้ คาดว่ามีผู้ร่วมขบวนการเปลี่ยนแปลงหลักฐานในคดี ทั้งตำรวจ และนักการเมืองกว่า 100 คน
สำหรับกระบวนการต่อไป หลัง ดีเอสไอ นำโทรศัพท์ไปตรวจสอบจนทราบผลแล้ว ก็จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลในวันที่ 10-17 กุมภาพันธ์ ส่วนโทรศัพท์จะถูกเก็บไว้ที่ห้องความมั่นคงขั้นสูงสุด มีขบวนรถนำไปส่งที่ดีเอสไอ และห้องแล็บนิติวิทยาศาสตร์
และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ดีเอสไอ จะประสานกรมเจ้าท่า และกรมชลประทาน รวบรวมหลักฐานสแกนภาพจากแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมดในช่วงที่เรือวิ่ง และใช้ GPS ตามช่วงเวลาที่เกิดเหตุเก็บข้อมูล รวมถึงสแกนใต้น้ำเก็บรวบรวมสถานที่ต้องสงสัย โดยใช้เทคโนโลยีทางภูมิศาสตร์ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้มีข้อสงสัยอยู่ 6 จุด