เจ้าหน้าที่เร่งสอบขบวนการลักลอบเหมืองแร่พลวง หลังมีการว่าจ้างชาวบ้านลักลอบเข้าไปขุด อาจจะมีนายทุนจีนเทาเอี่ยวด้วยหรือไม่
วันนี้ (4 ก.พ.68) สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเถิน เทศบาลตำบลเวียงมอกและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณป่าใกล้กับป่าช้าบ้านปางอ้า หมู่ที่ 4 ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งว่ามีการขุดแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อไปถึงพบรถแบ็กโฮจำนวน 2 คัน รถเจาะ 1 คัน และเครื่องกำเนิดลมขนาดใหญ่อีก 1 เครื่องและยังมีถุงใส่เศษธรณีวัตถุที่คาดว่าเป็นแร่ธรรมชาติ (แร่พลวง ) อีกจำนวน 160 กระสอบ , ไม้สักถูกตัดเป็นท่อนๆอีก 26 ท่อน พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ จึงทำการอายัดไว้เป็นของกลางและมีพื้นที่ถูกบุกรุกขุดเจาะไปแล้วประมาณ 1 ไร่เศษ
ต่อมามีการอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ นส3ก.พื้นที่ 7 ไร่เศษ มีสองตายายอายุ 70 ปี เป็นเจ้าของที่และกำลังยื่นขออนุญาตขุดสระน้ำเพื่อการเกษตรต่อเทศบาลอยู่แต่เทศบาลยังไม่อนุญาต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ไม่น่าใช่การขุดสระน้ำเพื่อการเกษตรปกติทั่วไป และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงทำการอายัดเครื่องจักรพร้อมไปแจ้งความเอาผิดกับตาอายุ 70 ปีและผู้ดูแลชายอายุ 50 ปี เกี่ยวกับ พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติเอาไว้ก่อนและรอเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมมาตรวจสอบว่าลักษณะการขุดและธรณีวัตถุที่พบเข้าข่ายการทำเหมืองแร่โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่
ล่าสุด นายประสิทธิ์ ศรีพรหม อุตสาหกรรม จังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 3 เชียงใหม่ พร้อมด้วยปลัดอำเภอเถินและผู้นำชุมชนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยพบว่ามีการขุดเจาะเป็นหลุมลึก 6-7 เมตร 2 จุด ซึ่งลักษณะการขุดนั้นแตกต่างจากการขุดสระเก็บน้ำเพื่อการเกษตรทั่วไปมากและเครื่องจักรที่ใช้ก็เช่นกัน และเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างธรณีวัตถุที่ เจ้าหน้าที่อายัดมาไว้ที่ป้องกันรักษาป่าที่ ลป.17 (แม่มอกตอนขุน) ซึ่งธรณีวัตถุดังกล่าวหากมองด้วยตาเปล่านั้นมีแร่ไม่ต่ำกว่า 3 ชนิด และหนึ่งในนั้นน่าจะเป็นแร่พลวงอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ ต้องนำไปทำการตรวจสอบในห้องแลปก่อนและหากว่าเป็นการขุดแร่จริง เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีก ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีการทำเป็นขบวนการและต้องมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทำเหมืองแร่เพราะชาวบ้านทั่วไปไม่สามารถแยกได้ว่าอันไหนมีแร่หรือเป็นหินทั่วไป และธรณีวัตถุที่อายัดจะต้องนำไปสู่กระบวนการแต่งแร่หรือทำการแยกแร่แต่ละชนิดอีกครั้ง ซึ่งจะต้องใช้เครื่องจักรและเครื่องมือเฉพาะและคนที่มีประสบการณ์เท่านั้นถึงจะทำได้ ส่วนสองตายายอายุ 70 ปี น่าจะถูกหลอกให้สมอ้างหรือมีนายทุนจีนเทาอยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้นยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่
