ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจสอบสวนกลาง รวบตัวดาวกองร้อย "นายร้อยปอยเปต" แก๊งคอลเซนเตอร์ข้ามชาติ ตุ๋นเหยื่อมาแล้วทั้ง ชาล็อต และ แอน ชิลี
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เข้าจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประกอบด้วย นายรามิล อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยจับกุมได้ที่บ้านพักอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว
นายธนาวุฒิ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ในความผิดหลายข้อหาทั้ง“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน และร่วมกันฟอกเงิน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่า มีคนร้ายแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิดีโอคอลมาข่มขู่ผู้เสียหาย โดยแจ้งกับผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน และคดียาเสพติด พร้อมส่งเอกสารปลอมต่าง ๆ มาให้ผู้เสียหายดู จนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและหลงเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง
ต่อมา คนร้ายจึงได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายรวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
โดย นายรามิล ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ทำหน้าที่เป็นสาย 1 ในการติดต่อเหยื่อจากระบบ Sim Box ที่มีการเซ็ตระบบไว้ โดยจะได้ข้อมูลของเหยื่อ และจะต้องพูดตามสคริปต์ที่บอสชาวจีนและคนคุมงานซึ่งเป็นคนไทยส่งมาให้ ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาพูดชักจูงเหยื่อจนเหยื่อเริ่มหลงเชื่อแล้ว จากนั้นจะมีการส่งต่อไปให้กับสาย 2 เพื่อดำเนินการ
ต่อมา วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตำรวจจับกุม นายธนาวุฒิ ได้ที่บ้านพัก ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ร่วมขบวนการของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่แต่งกายคล้ายตำรวจวิดีโอคอล เพื่อหลอกลวงเหยื่อจริง
ผู้ต้องหายังยอมรับอีกว่าได้แต่งตัวเป็นตำรวจและวิดีโอคอลไปหลอกลวงผู้เสียหายอีกหลายราย รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย โดยในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนจะมีหน้าที่วิดีโอคอลเพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ และทำหน้าที่ควบคุมเหยื่อผ่านการวิดีโอคอลในระหว่างการหลอกลวง โดยเมื่อเหยื่อหลงเชื่อแล้วจะมีคนร้ายที่เรียกว่าสาย 3 ทำหน้าที่ปิดดีล หลอกให้เหยื่อโอนเงิน
ในระหว่างการหลอกลวงจะมีทั้งคนไทยและคนจีนทำหน้าที่เป็นคนควบคุม และคิดสคริปต์ในการหลอกลวงเหยื่อ เพื่อให้เป็นไปตามบทที่วางไว้ หากไม่ปฏิบัติตามหรือต่อต้าน จะถูกทำร้ายร่างกาย และหากตนสามารถหลอกจนเหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินมาให้ได้ จะได้รับส่วนแบ่งจากมูลค่าที่หลอกลวงเหยื่อระหว่างตอบคำถามนักข่าว กองร้อยปอยเปต ยังปากดี ตอบสวนนักข่าวแทบจะทุกประโยค
ตำรวจนำตัวผู้ต้องหารายที่ 1 ส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ส่วนผู้ต้องหารายที่ 2 นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
