ห้องข่าวภาคเที่ยง - เหตุการณ์ถังก๊าซอัดลูกโป่งระเบิด ในงานวัดหลวงพ่ออี๋ จังหวัดชลบุรี ตำรวจพิสูจน์หลักฐานชี้ว่า สาเหตุเกิดจากส่วนผสมก๊าซที่ไม่ได้มาตรฐานและดัดเเปลงถังก๊าซเอง ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ หน่วยงานภาครัฐอย่างกรมอนามัย สคบ. ออกมาเตือนเป็นประจำว่าควรใช้ก๊าซฮีเลียม และถังก๊าซที่ได้มาตรฐาน แต่ผู้ขายบางคนยังเลือกวิธีราคาถูก
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายอายุ 60 ปี ซึ่งเป็นคนงาน ขาขาด และรถที่จอดอยู่ใกล้เสียหายกว่า 10 คัน ขนาดกำแพงที่แข็งแรงยังพัง เพราะใช้ถังไม่ได้มาตรฐาน และผสมก๊าซบรรจุเอง ใช้โซดาไฟมาผสมกับน้ำเปล่า แล้วเอาก๊าซมาอัดในลูกโป่ง คาดว่ามีการใช้น้ำแข็งแห้งผสมด้วย
"อาจารย์อ๊อด" รองศาสตราจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า การดัดแปลงใช้โซดาไฟ มาผสมกับน้ำเปล่า แล้วเอาก๊าซมาอัดในลูกโป่ง จะได้เป็นก๊าซไฮโดรเจน ซึ่งมีความไวไฟ และหากเกิดอันตรายจะมีความรุนแรงมากขึ้น ฉะนั้น แนะนำให้ใช้ก๊าซฮีเลียม แม้จะราคาแพง แต่มีความปลอดภัย
ด้านสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แนะนำควรเลือกลูกโป่งบรรจุด้วยก๊าซฮีเลียม เพราะเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่ติดไฟ ที่สำคัญคือเกิดการรั่วซึมยาก, ไม่เก็บลูกโป่งที่อัดก๊าซไว้ภายในรถ ในที่อุณหภูมิสูง กลางแดด ใกล้หลอดไฟ เปลวไฟ หรือความร้อน และไม่ควรมัดรวมหลายลูก เพราะจะเกิดการเสียดสี และระเบิดได้
ส่วนลูกโป่งที่บรรจุด้วยก๊าซไฮโดรเจน ซึ่งมีความไวไฟสูง สคบ. ประกาศให้เป็นสินค้าควบคุมฉลาก หมายความว่า ผู้ขายต้องติดคำเตือน "ห้ามนำเข้าใกล้เปลวไฟ หรือความร้อน"
