ศาลให้ประกัน เชน ตีราคา 1 ล้านบาท หลังอัยการยื่นฟ้องคดีฉ้อโกงไทยยินตัน นัดไกล่เกลี่ย-สอบคำให้การ 20 ก.พ.68 ส่วนภรรยาอ้างป่วยขอเลื่อน ฟ้องไม่ทันต้องขออนุญาต อสส.ฟ้อง
วันนี้ (19 ธ.ค. ที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวง4 (พระนครใต้) พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง นัดฟังคำสั่ง ในคดีที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ยื่นคำร้องพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องในคดีที่มีการกล่าวหาบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด นายธนาตรัยฉัตร หรือเชน ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ อดีตนักร้องชื่อดัง อายุ 37 ปี และ น.ส.กาลกัลยา ภรรยา อายุ 34 ปี เป็นผู้ต้องหาที่ 1 - 3 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง บริษัท ไทยยินตันความเสียหายกว่า 79 ล้านบาท โดยในวันนี้ นายธนาตรัยฉัตร เดินทางมาฟังคำสั่งส่วน น.ส.กาลย์กัลยา ไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่งด้วยเนื่องจากมีอาการป่วย
นายธนาตรัยฉัตร กล่าวว่า วันนี้เป็นการนัดฟังคำสั่งฟ้อง และตนได้ใช้สิทธิแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง อย่างที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้ว่าพยายามถามคำถามเกี่ยวกับข้อหาฉ้อโกงที่ตกเป็นผู้ต้องหา ว่ามีรายละเอียดเรื่องอะไรบ้าง จนถึงขณะนี้ตนก็ยังไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนั้น หลังจากนั้นตนได้ถามทีมทนายความ ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง จึงได้ร้องขอความเป็นธรรมตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.67 ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ว่าจะสามารถสอบสวนตนเพิ่มได้หรือไม่ เพราะตนมั่นใจในเรื่องของข้อมูลว่า ตนไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกง และเรื่องการขายสินค้าแล้วขาดทุนตนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นการบริหารของทางบริษัท เมื่อสินค้าใกล้หมดอายุ มีการตีค่าเผื่อสินค้าเมื่ออายุของสินค้าต่ำกว่ากึ่งหนึ่งหรือไม่
ส่วนเรื่องคดีความวันนี้ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน แต่ส่วนตัวได้ร้องขอความเป็นธรรมไปถึงอัยการสูงสุด แต่ยังไม่ได้รับคำตอบว่าให้สอบสวนเพิ่ม ซึ่งตนยังไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนั้น แต่สิทธิของตนเข้าใจว่าทางอัยการเจ้าของคดีน่าจะมีการเรียกสอบตนเพิ่มบ้าง แต่วันนี้เมื่อตนได้รับคำสั่งในรูปแบบนี้ก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาล
เมื่อถามว่า ได้มีการคุยกับคู่กรณีบ้างไหม นายธนาตรัยฉัตร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับคู่กรณี อย่างที่แจ้งไปวันนี้ตนมาในนามตัวแทนของบริษัท มองว่าเป็นเรื่องของสินค้าไม่ตรงตามพรรณนากับสัญญาซื้อขายมากกว่า ในวันนี้จึงมีเพียงคู่ค้าปกติที่ไม่ใช่กลุ่มผู้เสียหายที่เข้ามาฟังคำร้อง
เมื่อถามว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทและสินค้าหรือไม่ นายธนาตรัยฉัตร กล่าวต่อว่า ประเด็นนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเป็นอย่างมาก และประเมินค่าความเสียหายไม่ได้ ในส่วนนี้ตนเข้าใจทุกอย่าง แต่ก็ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอน
เมื่อถามว่า มีการไลฟ์สดขายสินค้าทางแพลตฟอร์มติ๊กต็อก เป็นผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวหรือไม่ นายธนาตรัยฉัตร กล่าวว่า ประเด็นที่เห็นตนไลฟ์สดขายของอยู่ เป็นผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวด้วย ตนได้แสดงความบริสุทธิ์ใจในการลดการออกมาหน้าสื่อทางทีวีลงไป แต่ในเมื่อมีแพลตฟอร์มออนไลน์ และบริษัทของตนยังต้องไปต่อ รวมถึงยังมีพนักงานอีกร่วมร้อยชีวิต จึงเป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องประคองบริษัทให้รอดจากช่วงวิกฤตนี้ไปด้วย
เมื่อถามของอาการป่วยของน.ส.กาลกัลย์ มีอาการอย่างไรบ้าง นายธนาตรัยฉัตร กล่าวอีกว่า ภรรยาของตนมีอาการวิตกกังวล รวมถึงมีอาการภูมิตกจากอาการเครียด แพทย์จึงให้พักรักษาตัวเสียก่อน และตนมีใบรับรองแพทย์เข้ามายืนยันต่อศาลเกี่ยวกับอาการป่วยของภรรยาด้วย
ภายหลังพนักงานนำตัวธนาตรัยฉัตร ไปยื่นฟ้องในความความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงต่อศาลเเขวงพระนครใต้ โดยไม่ได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราว ศาลประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ ที่ 2263/2567 พร้อมนัดไกล่เกลี่ยวันที่ 20 ก.พ. 68 ในส่วนน.ส.กาลกัลยา ผู้ต้องหาที่ 3 ที่ไม่ได้มาพบพนักงานอัยการในวันนี้โดยแจ้งเหตุป่วย พร้อมยื่นใบรับรองเเพทย์ พนักงานอัยการได้อนุญาตให้เลื่อนฟังคำสั่ง เเค่ตามขั้นตอนตามกฎหมายเเล้วเมื่อไม่ได้ตัวมาฟ้องภายในระยะเวลาผัดฟ้องครั้งที่ 5 (30วัน) การที่จะนำตัวผู้มาฟ้องคดีได้จะต้องขออนุญาตอัยการสูงสุดฟ้อง ส่วนจะใช้ระยะเวลาเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับขั้นตอนเเละการพิจารณาของอัยการสูงสุด
ภายหลังอัยการยื่นฟ้อง นายธนาตรัยฉัตร ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท โดบฝ่ายผู้เสียหายได้ยื่นคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว
ต่อมาศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เเล้ว อนุญาตปล่อยชั่วคราวตีราคาประกัน 1 ล้านบาท ศาลนัดไกล่เกลี่ยสอบคำให้การ ในวันที่ 20 ก.พ.68 เวลา 09.00 น. จากนั้นนายธนาตรัยฉัตรได้หลบผู้สื่อข่าวออกทางประตูหลังขึ้นรถตู้อัลพาร์ดสีขาว ออกจากศาลไป
