พระครูปลัดใช้รูปโปรไฟล์ขณะยังเป็นฆราวาส เล่นแอปฯ หาคู่เกย์มาเสพเมถุน คู่เกย์เห็นว่าไม่ตรงปกเลยปฏิเสธจนถูกฉุดขึ้นรถ ทำให้ทะเลาะกันจนประสบอุบัติเหตุรถชน เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือพบไอซ์พร้อมอุปกรณ์การเสพในรถ
จากกรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ประสบอุบัติเหตุชนเกาะกลางถนน ถนนศรีจันทร์ หน้าโรงพยาบาลขอนแก่นราม ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และมีผู้บาดเจ็บหนึ่งรายเป็นพระสงฆ์ ทราบชื่อตามบัตรประชาชนคือ พระครูปลัดนรินทร์ อายุ 32 ปี โดยมีข้อความระบุว่า “#จากเหตุเมื่อวานกำลังตรวจสอบทั้งหมดเบื้องต้นค้นกุฎิเช้านี้พบไอซ์พร้อมอุปกรณ์ 11.17 น. 26 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา
มีรายงานว่าเหตุการณ์เกิดจาก พระครูปลัดนรินทร์ ใช้รูปโปรไฟล์ขณะยังเป็นฆราวาส เล่นแอปฯ หาคู่เกย์มาเสพเมถุน คู่เกย์เดินทางมาจากนครพนม พอมาเห็นว่าพระครูปลัดนรินทร์ไม่ตรงปกเลยปฏิเสธ ทำให้ทะเลาะกันที่โรงแรม จากนั้นพระครูปลัดนรินทร์ฉุดคู่เกย์ขึ้นรถ คู่เกย์เลยตัดสินใจหักพวงมาลัยให้ชนเกาะกลางถนน จากนั้นมีพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่รุดมาช่วยเหลือปรากฎว่าพบไอซ์พร้อมอุปกรณ์การเสพในรถอีก ตอนนี้โรงแรมกำลังจะแจ้งความเนื่องจากคาดว่ามีการเสพยาภายในโรงแรม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ
หลังเกิดเหตุทางคณะสงฆ์อำเภอมัญจาคีรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในกุฏิของพระครูปลัดนรินทร์ ผู้บาดเจ็บ และเป็นคนขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าว ภายในวัดสระทอง บ้านบัว ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการตรวจค้นกุฏิพบอุปกรณ์การเสพไอซ์ พร้อมไอซ์จำนวนหนึ่ง และถุงซิปล็อกขนาดเล็กจำนวนหลายถุงภายในลิ้นชักในกุฎิพระนรินทร์
ล่าสุด พระครูวิสุทธิธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์และรองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึง กรณีของ พระนรินทร์ที่เกิดขึ้นนั้น ทางคณะสงฆ์ได้มีการประชุม และมีมติให้พระนรินทร์ต้องทำการลาสิกขาภายหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และแพทย์สามารถให้กลับได้ โดยภายหลังจากการลาสิกขา ก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของทางโลก โดยทางคณะสงฆ์ได้แจ้งให้กับทางพระนรินทร์ได้ทราบในเบื้องต้นดังกล่าวแล้ว โดยพระนรินทร์ก็ยอมรับและจะทำการลาสิกขาให้หลังจากที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสร็จ
ในกรณีของพฤติกรรมที่ พระนรินทร์ มีการเข้ากลุ่มเพื่อนัดพบตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลนั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งจะต้องรอให้ทางพระนรินทร์ ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลให้เสร็จสิ้นก่อน ก็จะจะได้สอบถามรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นนั้นทราบว่าภาพโปรไฟล์ที่พระนรินทร์ใช้เข้ากลุ่มในแอปพลิเคชันนัดเจอกัน เป็นภาพขณะที่เป็นฆราวาส และคู่เกย์ก็เป็นพระอีกรูปที่นัดพบ ทราบจากโซเชียลเช่นกันว่ามาจากจังหวัดนครพนม ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลที่อยู่ในโซเชียลมีเดียกรณีที่ไม่ตรงปก
รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวนั้นแม้เจ้าตัวจะปฏิเสธ ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็มีการพิสูจน์หาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว ก็จะไม่สามารถปฏิเสธได้ และกรณีที่พระสงฆ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะต้องทำการสึกเท่านั้น และจังหวัดขอนแก่นเอง ทางคณะสงฆ์ได้ประกาศข้อห้ามชัดเจนโดยห้ามพระสงฆ์ขับรถอย่างเด็ดขาด ซึ่งมีการประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2557 และหลังจากที่ทำการสึกไปแล้วพระนรินทร์ก็จะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้เนื่องจากในช่วงที่เป็นพระมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดในเรื่องของการเสพเมถุนร่วมด้วย ก็จะเป็นการผิดวินัยส่งร้ายแรง ทางคณะสงฆ์ก็จะมีการสลักหน้าใบสุทธิด้วยว่าให้ศึกด้วยสาเหตุใด และปัจจุบันการตรวจสอบประวัติของพระสงฆ์ก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่าใครทำผิดคดีอาญาอะไรบ้าง
