อธิบดีกรมการข้าว เปิดใจ เพราะคับแค้นใจ จึงวางแผนล่อจับ ศรีสุวรรณ

อธิบดีกรมการข้าว เปิดใจ เพราะคับแค้นใจ จึงวางแผนล่อจับ ศรีสุวรรณ

View icon 158
วันที่ 30 ม.ค. 2567 | 14.03 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อธิบดีกรมการข้าว เปิดใจ เพราะคับแค้นใจ จึงวางแผนล่อจับ "ศรีสุวรรณ" ทุกอย่างโปร่งใสชัดเจนตรวจสอบได้ จึงต้องปกป้องศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการ

30 มกราคม 2567 นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ หรือ “อธิบดีโจ” อธิบดีกรมการข้าว แถลงข่าวครั้งแรก หลังมีการรวบรวมหลักฐาน แจ้งจับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา กรณีเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว โดยเผยว่า วันนี้ตัดสินใจมาแถลงข่าว และจะพูดเฉพาะบางส่วนที่เกี่ยวข้อง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นตนเองได้ดำเนินการกับภรรยา 2 คน รวบรวมข้อมูลทั้งหมด เป็นระยะเวลานานพอสมควร และไปแจ้งความดำเนินคดี โดยที่ทีมงานของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และที่ปรึกษา ไม่มีใครรู้สักคน

เมื่อวันที่ 28 มกราคม ด้วยความรำคาญใจ ตนเองตัดสินใจไปบ้าน นายศรีสุวรรณ ไปกับพี่หมู ที่ปรึกษารัฐมนตรี เพราะตนเองไม่มีญาติผู้ใหญ่ จึงชวนที่ปรึกษารัฐมนตรี ไปพร้อมกับตนเองและภรรยา รวม 3 คน เพื่อไปถามว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ การที่ตนเองจะไปคุยนั้นต้องมีพยานไปด้วย เพราะว่าถ้าตนเองไม่มีพยานไปด้วย ตนเองก็จะแย่ วันนั้นไปบ้านนายศรีสุวรรณ เพื่อถามว่าทำไมต้องร้องเรียนตนเอง ตนเองผิดอะไร จะไปร้องเรียนไปดูข้อมูลหรือยังว่าผิดอะไร เพราะผลการสอบสวนออกมาแล้วทั้ง 4-5 โครงการ ตนเองไม่มีความผิด

นายณัฏฐกิตติ์ ยืนยันว่า พี่หมู ที่ปรึกษารัฐมนตรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร ไม่มีการจ่ายเงิน ตนเองพูดความจริง เพราะผมแขวนพระอยู่เต็มอก ตนเองเป็นคนพุทธพูดความจริงทุกอย่างไม่ได้โกหก ไม่ได้เจรจาเรื่องการจ่ายเงินอะไรทั้งนั้น เพราะตนเองไม่ผิด เลยทำให้เจ็บใจ ไม่รู้จักหยุดสักที ด้วยความแค้น และเจ็บใจมาก ก็เลยวางแผนกับภรรยา ตกลงกันได้ว่า จะลุยกันเอง 2 คน เพราะก็พอมีเงินอยู่ หรือถ้าหากสู้ไม่ได้ก็จ้างทนายสู้ ไม่ต้องไปเดือดร้อนกับใคร จึงรวบรวมหลักฐานแล้วไปที่ ปปป.

"เข้าใจคำว่ารำคาญไหม ผมเป็นคนหัวร้อน ถ้าไม่ผิด ผมสู้ตาย ตายเป็นตาย ไม่ได้กลัวอยู่แล้ว ชีวิตเราเกิดได้ครั้งเดียว ถ้าไม่ผิดแล้วอย่ามาแกล้งกัน จะผิด ไม่ผิด เป็นข้อกฎหมาย ผมเป็นข้าราชการ ถ้าผมผิดก็ต้องถูกสอบสวน แต่วันนี้ผมถูกสอบสวนออกมาหมดแล้ว ผลการสอบสวนก็ไม่มีมูล ก็ไม่ได้ทำอะไรให้มันผิด ทุกอย่างมันโปร่งใสชัดเจนตรวจสอบได้"

ส่วนทีมงานที่ปรึกษามารู้ภายหลังจากที่วางแผนจับเรียบร้อยแล้ว วันนั้นต้องโทรศัพท์ไปขอโทษรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เพราะไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เพราะกลัวว่าทีมงานจะเดือดร้อนเรื่องนี้ เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของข้าราชการคนๆหนึ่งกับครอบครัวผมที่ต้องมาเผชิญกับเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่รับโทรศัพท์ใครทั้งนั้นไม่มีใครโทรมาเคลียร์ LINE ก็ไม่ตอบ ไม่อ่านทีวีก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง ตั้งแต่รับราชการมาไม่เคยมีใครมาเรียกรับเงินเคสนี้เป็นเคสแรก ตนเองหยิ่งโดยศักดิ์ศรี ตนเองเป็นข้าราชการดีเด่น และได้ครุฑทองคำ ตนเองเป็นข้าราชการระดับสูง ถ้าตนเองไม่มั่นใจ วันนี้ต้องปกป้องศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการ ศักดิ์ศรีของผู้บริหารในกระทรวงเกษตร ขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบบัตรสนเท่ห์ว่าได้รับร้องเรียนมาจากที่ใด

"ผมรับราชการ ที่เจ็บใจมากที่สุดรู้ไหมว่า ผมเลี้ยงไก่กว่าได้ แต่ละตัวดันไปบอกภรรยาผม ค้าตีนไก่อีก นี่คือแค้นที่สุด"