แมลงปีกแข็งบุกบ้าน ต้องอุ้มผู้ป่วยติดเตียงหนี หวั่นแมลงเข้าหู

แมลงปีกแข็งบุกบ้าน ต้องอุ้มผู้ป่วยติดเตียงหนี หวั่นแมลงเข้าหู

View icon 174
วันที่ 7 มิ.ย. 2566 | 17.56 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
แมลงปีกแข็งบุกบ้าน เกาะตามขื่อหลังคาและซอกหลังคาจนเป็นก้อนสีดำ ต้องอุ้มผู้ป่วยติดเตียงหนีไปอาศัยอยู่ชั้นล่าง หวั่นแมลงเข้าหูผู้ป่วย ทางจนท. มาฉีดพ่นยาแล้ว แต่แมลงก็ยังกลับมา

วันนี้ (7 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนาง ชบา อายุ 63 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังหนึ่งใน ต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ว่า มีแมลงปีกแข็งบุกเข้ามาอยู่ในบ้านนานหลายวันแล้ว สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยที่บ้านมีผู้ป่วยติดเตียงทำให้ต้องคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง จนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะกลัวว่าแมลงนั้นจะเข้าหูผู้ป่วย หลังได้รับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ

ณ บ้านหลังดังกล่าวพบเป็นบ้านไม้เก่ายกพื้นสูง และพบนายสมัย แก้วสอาด นายก อบต.นครชุมน์ เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวพร้อมกับนำเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขของอบต. นำยาฆ่าแมลงมาทำการฉีดพ่นตัวแมลงปีกแข็งให้กับบ้านหลังดังกล่าวด้วย

โดยทางญาติของนางชบาได้ทำการอุ้มผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในบ้านหนีแมลงปีกแข็งลงมาอยู่ด้านล่าง เนื่องจากบนบ้านนั้นมีแมลงปีกแข็งเกาะอยู่ตามขื่อหลังคา และตามซอกหลังคา โดยเกาะกันเป็นกลุ่มจนเป็นก้อนสีดำ บางตัวก็ร่วงหล่นลงพื้นบ้านและคลานไปทั่ว

ทางนางชบาเผยว่า พอฝนใกล้จะตก แมลงปีกแข็งก็เริ่มบินมาเกาะตามขื่อหลังคาและเสาบ้านเต็มไปหมด จนไม่สามารถที่จะนอนได้เพราะกลัวแมลงเข้าหู ทำให้ทุกวันจะต้องกวาดตัวแมลงทั้งวัน เพราะมีผู้ป่วยติดเตียง บางวันที่มีฝนตกก็จะไม่ได้นอน เพราะกลัวแมลงจะเข้าหูผู้ป่วย หลังจากกวาดแมลงก็จะนำไปเผา เพราะถ้าไม่เผามันก็จะบินกลับมาอีก และถ้าเผลอแมลงก็จะเข้าหูตัวเองและบางทีก็เข้าหูพ่อ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแมลงมาเมื่อประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว  หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย แต่มาปีนี้กลับมาอีกและมีเยอะมาก ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา (6 มิ.ย. 66) ก็มีเจ้าหน้าที่มาพ่นยาให้ แต่แมลงก็กลับมาอีกจนเหยียบไม่ถึงพื้นกระดาน บางทีกับข้าวก็วางไม่ได้เพราะแมลงจะเข้าไปอยู่  นอนกางมุ้งก็ต้องคอยทับชายมุ้งให้แน่นๆลำบาก

ด้านนายสมัย แก้วสอาด นายก อบต.นครชุมน์ กล่าวว่า วันนี้นำเจ้าหน้าที่มาฉีดพ่นยาให้ ซึ่งแมลงที่มารบกวนชาวบ้านเขาเรียกว่าแมลงปีกแข็ง หรือชาวบ้านบางคนก็เรียกแมลงทรัพย์ เพราะอยู่ในดิน  จึงเรียกชื่อให้เป็นมงคล ส่วนวิธีกำจัดนั้นจะต้องทำหนังสือหารือไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและปศุสัตว์ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือต่อไป