"ศรีสุวรรณ" ยื่นหลักฐานเพิ่ม “ปิยบุตร-ช่อ” ครอบงำก้าวไกลชิงประธานสภาฯ หรือไม่

"ศรีสุวรรณ" ยื่นหลักฐานเพิ่ม “ปิยบุตร-ช่อ” ครอบงำก้าวไกลชิงประธานสภาฯ หรือไม่

View icon 92
วันที่ 26 พ.ค. 2566 | 11.25 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"ศรีสุวรรณ" ยื่นหลักฐานเพิ่มให้ กกต.ตรวจสอบ “ปิยบุตร-ช่อพรรณิการ์” ครอบงำ “ก้าวไกล” ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ หรือไม่ 
     
ร้อง กกต. วันนี้ (26 พ.ค.66) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้จัดส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายหลังยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบกรณี “เอก-ป๊อก-ช่อ” ครอบงำ ชี้นำพรรคก้าวไกล อันเป็นการฝ่าฝืน ม.28 และ ม.29 แห่ง พรป.พรรคการเมือง 2560 หรือไม่

โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ค.66 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ประธานสภาผู้แทนราษฎร" ตำแหน่งที่พรรคก้าวไกลเสียไปไม่ได้เป็นอันขาด พร้อมอธิบายเหตุผลมากมาย ซึ่งต่อมาเป็นเหตุให้ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ต่างออกมาให้สัมภาษณ์หรือโพสต์ข้อความแสดงความเห็น เพื่อยืนยันว่าตำแหน่งประธานสภาฯต้องเป็นของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ลงในสื่อสังคมออนไลน์มากมาย อาทิ นายรังสิมันต์ โรม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ฯลฯ

การที่ “ว่าที่ สส.” ท่านใดจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของ สส.ทั้ง 500 คนที่ประชาชนได้เลือกตั้งให้ไปเป็น สส. แล้วเข้าไปเลือกกันเองว่าท่านใดจะมีความเหมาะสม เพราะทุกคนน่าจะมีวิจารณญานที่จะตัดสินได้ได้เอง โดยไม่จำต้องมีใครมาชี้นำ การที่นายปิยบุตร ออกมาโพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะดังกล่าว จะทำให้สังคมมองไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากการพยายามที่จะชี้นำความคิดและการกระทำของว่าที่ สส.ของพรรคก้าวไกล ให้ต้องช่วยกันผลักดันหรือกดดันให้พรรคร่วมต่าง ๆ ยินยอมให้ตำแหน่งประธานสภาฯเป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้น
            
นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 25 พ.ค.66 น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ยังได้ออกมาโพสต์สำทับถึงข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า “ก้าวไกลต้องการเป็น #ประธานสภา เพื่อผลักดันวาระก้าวหน้าในสังคม” อีกด้วย อันชี้ให้เห็นว่าบุคคลทั้งสอง ซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคก้าวไกล กลับมีพฤติการณ์หรือกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระทั้งโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมหรือไม่ รวมทั้งกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลออกมาเคลื่อนไหวสอดรับกับการชี้นำของบุคคลทั้งสอง จึงอาจเป็นการฝ่าฝืน ม.28 และ ม.29 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ด้วยหรือไม่

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมายื่นเพิ่มเติมให้ กกต. เพื่อนำไปตรวจสอบ และวินิจฉัยประกอบคำร้องเดิม หาก กกต.วินิจฉัยว่าเป็นไปตามการชี้เบาะแส ก็สามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคที่ฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวได้ ตาม ม.92(3)