พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 9 จ.เหนือ อีสาน 12-14 พ.ค. 66

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 9 จ.เหนือ อีสาน 12-14 พ.ค. 66

View icon 1.1K
วันที่ 10 พ.ค. 2566 | 07.51 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 9 จ.เหนือ อีสาน 12-14 พ.ค. 66

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศ วันนี้ (10 พ.ค. 66) เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ซึ่งจากการติดตามสภาพอากาศ พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน โดยคาดว่าจะเคลื่อนผ่านอ่าวเบงกอลตอนกลางและทะเลอันดามันตอนบน

ส่งผลให้ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 12-14 พ.ค.66
         
ทั้งนี้ กอนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำนองระบายไม่ทัน ในช่วงวันที่ 12-14 พ.ค.66 ดังนี้
         
1.ภาคเหนือ จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอวิเชียรบุรี)
        
2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดกาฬสินธุ์ (อำเภอคำม่วง ท่าคันโท ยางตลาด และห้วยเม็ก) , จังหวัดขอนแก่น (อำเภอเมืองขอนแก่น กระนวน ชุมแพ น้ำพอง และพระยืน) , จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอแก้งคร้อ และภูเขียว) , จังหวัดมหาสารคาม (อำเภอนาดูน และพยัคฆภูมิพิสัย) , จังหวัดยโสธร (อำเภอค้อวัง คำเขื่อนแก้ว และมหาชนะชัย) , จังหวัดหนองบัวลำภู (อำเภอเมืองหนองบัวลำภู) , จังหวัดศรีสะเกษ (อำเภอเมืองศรีสะเกษ และราษีไศล) , จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเขื่องใน เดชอุดม เมืองอุบลราชธานี พิบูลมังสาหาร และม่วงสามสิบ)
         
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
         
1.ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมือง ที่เคยเกิดน้ำนองระบายไม่ทัน
         
2.เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
         
3.ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์