สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ชูวิทย์ นำเงิน 6 ล้านบาท ไปมอบให้กับผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เก็บไว้ตรวจสอบหาที่มาของเงินดังกล่าว
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำเงินจำนวน 6 ล้านบาท ไปส่งมอบให้ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่ก่อนจะนำเงินเข้าไปให้ได้ทำพิธีเซ่นไหว้สัมภเวสี เพราะมีผู้ไม่หวังดี ทำให้เงินดังกล่าวไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์
นายชูวิทย์ ชี้แจงถึงที่มาของเงิน โดยบอกว่า ต้องไปถามที่ นายพล ป.ปลา ว่าเป็นเงินของใคร ตอนที่นำมาให้คือวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 แต่ตอนนั้นตนเองพักผ่อนอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี โดยติดต่อมาว่าอยากจะทำบุญ และอยากจะทำธุรกิจอาบอบนวด อยากปรึกษาตนเพราะมีความรู้เรื่องนี้ หลังจากนั้นก็นำเงินดังกล่าวไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล 2 แห่ง ทั้งหมดทำอย่างตรงไปตรงมาไม่ผ่านเข้าบัญชีตนเอง รวมทั้งใบเสร็จหลังการทำบุญ ตนก็ไม่เคยนำไปลดหย่อนภาษีใด ๆ
ด้าน พลตำรวจตรี มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หลังได้รับเงินแล้ว ก็จะตรวจยึดเป็นของกลาง ลงบันทึกประจำวันและนำไปเก็บรักษา จากนั้นพนักงานสอบสวนจะทยอยเชิญตัวบุคคลที่ถูกพาดพิงมาให้ปากคำ โดยชุดแรกประกอบด้วย พลตำรวจโท ป.ปลา และ นายศักดิ์ ที่เป็นเจ้าของเงิน ได้นัดหมายให้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามในวันที่ 4 เมษายนนี้
หากย้อนไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 นายชูวิทย์ ได้โพสต์ข้อความตอบโต้ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่ออกมา "แฉไป ไถไป" เรื่องเงิน หากเทียบกับการโพสต์ครั้งนั้นค่อนข้างขัดกัน โดย นายชูวิทย์ บอกว่า เป็นดังกล่าวเป็นของ "สารวัตรซัว" ให้ผมช่วยหยุดโจมตี จึงบอกไปว่าไม่รับเคลียร์ ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ผมยังต้องแฉต่อ แต่นายตำรวจท่านดังกล่าว ยืนยันยัดเยียดเงินให้ผมรับไว้ หลังจากนั้นก็นำเงินไปบริจาค 2 โรงพยาบาล วันที่ 14 กุมภาพันธ์ และ 15 มีนาคม และผมก็ยังแฉเรื่อง "ซัว" อย่างต่อเนื่อง
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบเงิน 6 ล้านบาท หลังวันก่อน ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ โดยพันตำรวจเอกเผด็จ งามละม่อม ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หลักฐานที่ ทนายษิทรา นำมามอบให้พนักงานสอบสวนนั้น ยังคงเป็นหลักฐานเดิม ๆ ที่เคยเปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ยังไม่มีหลักฐานใหม่เพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่การให้ข้อมูลนั้นมีความละเอียดอยู่พอสมควร ซึ่งก็จะนำไปเป็นข้อมูลในการตรวจสอบต่อไป
