สถานการณ์การประท้วงต่อต้านแผนปฏิรูปเงินบำนาญของประธานาธิบดี "เอ็มมานูเอล มาครง" ผู้นำฝรั่งเศส ยังรุนแรงต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม เป็นวันที่ 10 ของการนัดประท้วงหยุดงานใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งมีประชาชนราว 740,000 คน ออกมาร่วมชุมนุม โดยที่กรุงปารีส กลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาถังขยะและขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ตำรวจยิงก๊าซน้ำตาเข้าใส่ และจับผู้ชุมนุมประท้วงไปบางส่วน
ที่เมืองนองต์ ได้จุดไฟเผารถยนต์ และถังขยะ รวมทั้งยิงพลุดอกไม้ไฟใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเกิดการปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย ทำให้ตำรวจยิงก๊าซน้ำตา เพื่อสลายการชุมนุม ส่วนที่เมืองแรนส์, รูออง, บอร์กโดว์ และเมืองตูลูส สถานการณ์ประท้วงเป็นไปอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยกลุ่มผู้ประท้วงปิดถนนและเผายางรถยนต์ รวมทั้งปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เมืองนีซ (Nice) กลุ่มสหภาพแรงงานรวมตัวกันเดินขบวนประท้วง พร้อมแผ่นป้ายที่มีข้อความต่อต้านแผนการปฏิรูปเงินบำนาญของรัฐบาลไปตามท้องถนน โดยการประท้วงที่เมืองแห่งนี้เป็นไปอย่างสงบ
ทั้งนี้ แผนปฏิรูปเงินบำนาญของรัฐบาลฝรั่งเศส มีการขยายเวลาเกษียณอายุจาก 62 ปี ขึ้นเป็น 64 ปี และขยายเวลาการจ่ายเงินเข้าระบบเงินบำนาญจาก 42 ปี เป็น 43 ปี เพื่อที่จะได้รับเงินบำนาญเต็มจำนวน ทำให้ประชาชนฝรั่งเศสไม่พอใจและออกมารวมตัวประท้วงตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา โดยเมื่อกลางเดือนมีนาคม รัฐบาลฝรั่งเศส ใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญ ผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวโดยไม่ผ่านการลงมติจากรัฐสภา ยิ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจมากขึ้น
ด้านสหภาพแรงงานของฝรั่งเศส ประกาศว่า การนัดหยุดงานใหญ่ทั่วประเทศครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 6 เมษายนนี้
