ชูวิทย์ โพสต์ข่ม ภูมิใจไทย กระสุนแพ้กระแส

View icon 50
วันที่ 20 มี.ค. 2566 | 06.37 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ศึกระหว่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กับพรรคภูมิใจไทย ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด ยิ่งเลขาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แจ้งความเอาผิดนายชูวิทย์ ก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความเดือด ล่าสุด นายชูวิทย์โพสต์เฟซบุ๊กว่า "กรุงเทพฯ กระสุนแพ้กระแส" ขณะที่ทนายความชื่อดังระบุว่า สิ่งที่นายชูวิทย์กำลังเคลื่อนไหว ยืนยันว่าทำได้ เป็นการตรวจสอบในฐานะประชาชน

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความส่วนตัวของนายชูวิทย์ ในคดีที่เกี่ยวข้องกับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ แสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กำลังเคลื่อนไหวเปิดศึกแฉพรรคภูมิใจไทย ว่า นายชูวิทย์ ยังไม่ได้มอบหมายให้ตนมาดูแลในคดีที่พรรคภูมิใจไทย ขู่ว่าจะให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. 400 เขต รุมฟ้อง ซึ่งตนมองว่า หากว่าที่ผู้สมัครจะฟ้องดำเนินคดี ก็เป็นสิทธิ์ เช่นเดียวกับนายชูวิทย์ สามารถตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบในฐานะประชาชน ย่อมทำได้เช่นกัน แต่ย้ำว่าแม้ตนเป็นทนายให้นายชูวิทย์ แต่รับผิดชอบในคดีที่เกี่ยวกับนายสันธนะ ส่วนคดีนี้ยังไม่มีการมาหารือกัน นอกจากนี้ มองว่าข้อมูลที่นายชูวิทย์นำมาเปิดเผย น่าจะมีมูลพอสมควร

บุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลสาธารณะ สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ เขามีหลักฐานแค่ไหน ผมไม่เคยคุยหลักฐาน แต่ถ้าสิ่งที่นายชูวิทย์เปิดไป แล้วเป็นประโยชน์สาธารณะ ได้รับการยกเว้นข้อกฎหมาย ไม่มีความผิด

ส่วนอีกคนคือ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ พูดในการไลฟ์เฟซบุ๊กว่า สิ่งที่คุณชูวิทย์พูด ในแง่กฎหมายน่าคิด เพราะการรถไฟแห่งประเทศไทย ชนะคดีที่ดินเขากระโดง แต่ดันไม่ขับไล่ผู้แพ้คดีออก ซึ่งชูวิทย์ถามว่าดูแปลก ๆ ฮั้วกันหรือเปล่า หรือว่าคุณศักดิ์สยามเป็นรัฐมนตรีคมนาคม แล้วที่ดินนั้นครอบครัวชิดชอบดูแลอยู่ การรถไฟฯที่อยู่ในกระทรวงคมนาคม เลยไม่ดำเนินการขับไล่ ตอนนี้ชาวบ้านเชื่อคุณชูวิทย์ ส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยที่ไปดูด สส.มา และคุยว่าจะได้ 100 กว่าเสียง อาจจะเหลือเพียง 40-50 เสียง

ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทย จะให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. 400 เขต ไปแจ้งความคุณชูวิทย์ทั่วประเทศ ฟังแล้วน่ากลัว แต่ตามหลักกฎหมาย เวลาดำเนินคดีหมิ่นประมาท เช่น คุณชูวิทย์ ไปด่าพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ไปฟ้องศาลอาญาจบ ด่าครั้งเดียวรับโทษครั้งเดียว แต่ถ้าไปแจ้งความหลายพื้นที่ เรียกว่ากลั่นแกล้ง ตามหลักกฎหมายคือ การกระทำผิดกฎหมายครั้งเดียว รับโทษเพียงครั้งเดียว

สำหรับการเปิดศึกที่หนักยิ่งขึ้นระหว่าง คุณชูวิทย์ กับพรรคภูมิใจไทยนั้น หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม คุณศุภชัย ใจสมุทร สส.พรรคภูมิใจไทย แถลงว่า สส.ทั้ง 400 เขตของพรรค จะแจ้งความดำเนินคดีคุณชูวิทย์ และพรรคจะฟ้องคดีอาญาด้วย

ถัดมาอีก 2 วัน คือวันที่ 18 มีนาคม คุณสุขสำรวย วันทนียกุล เลขานุการคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 1 จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นคนแรกของพรรคภูมิใจไทย ที่แจ้งความคุณชูวิทย์ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอำนาจเจริญ ข้อหาอาฆาตมาดร้าย ทำลายความน่าเชื่อถือและคะแนนนิยมของพรรค ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ ซึ่งมีการอ้างถึงกลุ่มคนที่น่าเชื่อว่า เป็นทีมงานของคุณชูวิทย์ นำป้ายที่มีรูปใบหน้าของคุณชูวิทย์ และมีข้อความในป้ายว่า "ยกเลิกกัญชาเสรี ไม่เลือกภูมิใจไทย" ประมาณ 20 ป้าย ไปติดตั้งในเขตพื้นที่อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นเขตที่คุณสุขสำรวย ได้หาเสียงในช่วงก่อนเลือกตั้ง

วันเดียวกันคือ 18 มีนาคม คุณชูวิทย์ ไปที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน แจ้งความกลับคุณสุขสำรวย โดยระบุว่า ตนวิพากษ์วิจารณ์พรรคภูมิใจไทยในเรื่องนโยบาย ไม่ได้โจมตีเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เป็นการอาฆาตมาดร้ายตามที่ถูกกล่าวหา และเมื่อนางสุขสำรวย เกรงว่าคะแนนนิยมตกต่ำ จึงกลับใช้วิธีกลั่นแกล้งเพื่อให้ตนได้รับโทษทางอาญา ทำให้ต้องเข้าแจ้งความเพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งให้ติดป้ายโจมตีตามที่ถูกกล่าวหา รวมถึงไม่ได้สั่งผลิตป้ายดังกล่าว สามารถไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ได้ พร้อมฝากถึงชาวอำนาจเจริญ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ว่าอย่าให้คนที่มีอำนาจมืดมาครอบงำได้ หลังจากนี้ตนจะเดินทางไปเยี่ยมชาวอำนาจเจริญ และไปได้แม้กระทั่ง 3 จังหวัดชายแดนใต้

ก่อนหน้าที่จะแจ้งความ คุณชูวิทย์ ได้ตั้งโต๊ะรณรงค์ไม่ให้เลือกพรรคภูมิใจไทย พร้อมชูป้ายข้อความ ขณะที่รถหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย วิ่งไปตามถนนพหลโยธิน บริเวณแยกเกษตรศาสตร์ และกล่าวโจมตีนโยบายกัญชาว่าเป็นยาเสพติด พร้อมแจกเสื้อกับประชาชนทั่วไป และวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่

โดยในวันนั้น พรรคภูมิใจไทย ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. กรุงเทพฯ ทั้ง 33 เขต ที่พรรคภูมิใจไทย ถนนพหลโยธิน ซึ่งหลังคุณอนุทิน เปิดตัว สส. และแจกธง ปล่อยขบวนรถแห่ของพรรค วิ่งไปทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนคุณชูวิทย์ ชูป้ายรณรงค์ทำลายคะแนนเสียงของพรรคภูมิใจไทยบริเวณแยกเกษตรศาสตร์

หลังจากนั้น คุณอนุทิน ให้สัมภาษณ์ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีคุณชูวิทย์ออกมาคัดค้านพรรคภูมิใจไทย จะทำให้เสียคะแนนนิยมในพื้นที่ กทม. หรือไม่ คุณอนุทิน บอกว่า ไม่กังวล และการเคลื่อนไหวของคุณชูวิทย์ ไม่มีปัญหา เพราะพรรคภูมิใจไทย เปรียบเหมือนภูเขาทอง ส่วนที่เหลือก็ไปคิดกันเอาเอง และที่คุณชูวิทย์ไปร้อง กกต. เพื่อขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทยนั้น ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ตรวจสอบ และหากพรรคได้รับแจ้งจากองค์กรที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ ก็พร้อมชี้แจง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีพิพาทกับคุณชูวิทย์จะจบลงอย่างไร คุณอนุทิน บอกว่า อันนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องพิพาท เพราะไม่มีการเริ่มต้นก็ไม่มีจุดจบ เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับเส้นทางของพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่า ขณะนี้ขั้นตอนเรื่องมอบหมายให้ผู้สมัคร 400 เขต ฟ้องคุณชูวิทย์ ดำเนินการถึงขั้นไหนแล้ว คุณอนุทิน บอกว่า ไม่ได้มอบหมาย ไม่ใช่มติพรรค แต่เป็นสิทธิของผู้สมัครแต่ละท่าน

ล่าสุด คุณชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ "กรุงเทพฯ กระสุนแพ้กระแส" ใจความโดยสรุปกล่าวถึง ความต่างของคนต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ที่เลือก สส.แตกต่างกัน คนกรุงเทพฯ มักไม่รู้ว่า สส.เขตตัวเองเป็นใคร เพราะไม่เคยพึ่ง สส. ส่วนคนต่างจังหวัดมักมีความใกล้ชิด สส.ตัวเองมากกว่า เพราะงานศพ งานแต่ง งานบวช ต้องมี สส.พื้นที่มาร่วมงาน

คนกรุงเทพฯ ยุ่งกับการทำงาน ดิ้นรน ถึงบ้านดึกดื่น ในชุมชนก็เป็นคนต่างด้าวเสียมาก นักการเมืองเข้าหาเสียงได้ทุกพรรค แต่มักถูกหลอก เพราะคิดว่าใช้ระบบหัวคะแนนได้เหมือนบ้านนอก พรรคหลายพรรคพยายามจะแจ้งเกิดที่กรุงเทพฯ จึงผิดหวัง เพราะใช้เงินไม่ได้กับคนกรุงเทพฯ แม้แต่พรรคอย่างประชาธิปัตย์ ก็ยังเสียมวย ไม่ได้สักเขตในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด

กรุงเทพฯ คือ หัวใจของกระแส และจะลามไปหัวเมืองต่างจังหวัดในพริบตา ด้วยสื่อโซเชี่ยล พรรคทัวร์ริสต์ ที่มาแค่ครั้งคราวแล้วเผ่นกลับอย่าง พรรคภูมิใจไทย เห็นมามากแล้ว ทำได้แค่ปล่อยรถหาเสียง ติดป้าย ทำการตลาดการเมืองเฉพาะตอนเลือกตั้งเท่านั้น เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นหัวใจ จึงต้องการมาตอกเสาเข็ม ตั้งหลักปักฐานไว้ แค่พูดคำนี้ก็รู้แล้วว่า ยังไม่เลิกคิดแบบผู้รับเหมาสไตล์นายอนุทิน ที่มีเบื้องหลังคือ นายเนวิน คุมเกมอยู่ 

กระแสเรื่องกัญชาจะส่งผลทำลายคะแนนของพรรคที่นำเอามาเป็นนโยบาย กระแสนี้จะส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยคะแนนตกต่ำถึงขีดสุด ในกรุงเทพฯ สส.เขตอย่าไปหวังจะได้ ส่วนคะแนนปาร์ตีลิสต์ได้หลักพัน กระแสจะถูกโหมเป็นคลื่นสินามิ จากชูวิทย์ทุกวิถีทาง ระดับนายอนุทินกับผม ต่างชั้นกันที่ผมเกิดมาด้วยตัวเอง ไม่เคยยืมจมูกใครหายใจ นายอนุทินคงต้องหารือกับนายเนวิน ที่เซฟเฮาส์โรงแรมคิงพาวเวอร์ที่ประจำ แต่ดูแล้วจะเหมือนกองขี้หมา มากกว่าภูเขาทอง ที่อนุทินอวดอ้างปากเก่ง