เช้านี้ที่หมอชิต - ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องสำหรับ คดีเรียกรับสินบนกรมอุทยาน เมื่อวานนี้ นายรัชฎา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขึ้นศาลแถลงข้อเท็จจริง ยืนยัน ไม่มีเรียกผลประโยชน์ คาด ชัยวัฒน์ ไม่พอใจถูกสอบโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 30 มี.ค.นี้
เมื่อวานนี้ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางไป ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน หลังเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมถึงชุดจับกุม และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี กับพวก รวม 7 คน เป็นจำเลย ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ, ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ บุกรุก ซ่องโจร ผิดพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 โดยจำเลยทั้งหมดวางแผนล่อลวงให้รับเงิน และยังมีการเผยแพร่ข้อมูลบันทึกวิดีโอให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ศาลกำหนดนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 30 มี.ค. เวลา 09.30 น.
นายรัชฎา ยังได้เปิดใจกับสื่อเป็นครั้งแรกว่า ศาลได้นัดไต่สวนฝ่ายโจทก์ ซึ่งสาเหตุที่ถูกตำรวจ และชัยวัฒน์เข้าจับในห้องทำงานนั้น คาดว่าเกิดจากการที่นายชัยวัฒน์ไม่พอใจที่ถูกตนตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องเบิกจ่ายโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 4,200 ไร่ เป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท เมื่อปี 2562 และคดียังอยู่ในชั้นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งใกล้จะหมดอายุความในวันที่ 29 มี.ค.66 เพราะถ้าถึงวันนั้นคดีนี้จะไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้น หากตนไม่ตั้งคณะกรรมการสอบก็จะถูกตั้งข้อหาอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และต้องชดใช้แทนนายชัยวัฒน์
สำหรับสิ่งที่ให้การชี้แจงต่อศาล อดีตอธิบดีเล่าว่า ในวันเกิดเหตุ เป็นวันที่ทางกระทรวงฯ มีงานในช่วงเช้า ก็มีข้าราชการในสังกัดเข้ามาพบหลายคน ส่วนใหญ่นำซองใส่เงินมาให้ เพื่อเป็นเงินบริจาคผ่านอธิบดีนำไปใช้ในโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ โครงการช่วยเหลืออาหารสัตว์ป่าของกลางที่ถูกยึดไว้ และมีเงินที่เกี่ยวกับการจัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ที่ยังเหลืออีกประมาณ 100 องค์ ซึ่งมีข้าราชการมาเช่าพระบรมรูป ให้เงินบริจาคผ่านอธิบดีเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่ข้าราชการเหล่านั้นไม่โอนเงินเข้าบัญชีโดยตรง เป็นเพราะข้าราชการต้องการให้อธิบดีทราบว่าร่วมบริจาคเงินเท่าใด แต่ด้วยวัตถุประสงค์อื่นหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ ไปฟังเสียง คุณรัชฎา สักนิด
นายรัชฎา ย้ำว่า การที่เดินทางมายื่นฟ้องเป็นการเรียกความยุติธรรมให้กับตัวเอง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการใส่ความ และอยากให้ได้ดูคลิปเสียง วันที่มีการบุกจับกุมที่ถูกลบออกไป ซึ่งในระหว่างคลิปเสียงนั้นตนได้ปฏิเสธตลอดว่าไม่มี ไม่เอา ให้เอาไปไม่ต้อง
นี่ก็คือคำปฏิเสธชัดๆครั้งแรกที่ออกมาจากอดีตอธิบดีรัชฎา หลังมีคดีเรียกรับสินบน
