ล่าสุดวันนี้ (13 ก.พ. 66) ว่าที่บัณฑิตเจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเป็นนักศึกษาทุนพระราชทาน ที่ได้รับทุนการศึกษาตลอด 4 ปี ในระดับปริญญาตรี ต่อมาในเทอม 1 ปี 2564 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ได้ให้ส่วนลดค่าเทอมนักศึกษาปริญญาตรี เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้กับนักศึกษาทุกคน ซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับส่วนลดแตกต่างกันไปตามอัตราค่าเทอมของแต่ละคณะ โดยในช่วงนั้นนักศึกษาทุกคนก็ได้รับส่วนลด ซึ่งไม่มีการแจ้งเงื่อนไขอะไรจากทางมหาวิทยาลัย
ต่อมาเรียนจบและเตรียมเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ก.พ. 66 แต่ปรากฏว่าช่วงค่ำวันที่ 11 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยได้มีข้อความส่งผ่านโทรศัพท์มือถือ แจ้งว่ามียอดค่าเทอมค้างชำระ หากไม่จ่ายจะขอระงับหลักฐานทางการศึกษาทุกประเภทและปริญญาบัตร เมื่อเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ก็พบว่า ยอดหนี้ค้างคือส่วนลดที่ อว. ช่วยเหลือมาในปี 2564 เป็นเงิน 5,075 บาท จากนั้นจึงสอบถามไปที่เจ้าหน้าที่ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นคำสั่งมาจาก อว. และบอกว่านักศึกษาที่ได้รับทุนเต็มจำนวนอยู่แล้ว ทาง อว. จะไม่ให้รับส่วนลด และมีหลายร้อยคนที่ถูกเรียกคืน เพราะได้รับทุน ทั้งที่ในช่วงเวลานั้นไม่มีการแจ้งเงื่อนไขนี้ให้ทราบมาก่อน
ว่าที่บัณฑิต บอกอีกว่า นอกจากตนเองแล้ว ยังมีเพื่อนๆ ว่าที่บัณฑิตที่เป็นนักศึกษาทุนอีกร้อยกว่าคน ที่ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนเงินช่วยเหลือ เพราะนักศึกษาทุนเป็นกลุ่มที่ไม่ได้มีฐานะดีอะไรอยู่แล้ว และก่อนหน้านี้ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมามากเพื่อเตรียมเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เพราะส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด ต้องจองห้องพักให้ญาติที่จะมาร่วมแสดงความยินดี มีค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก เมื่อมาถูกเรียกคืนเงินกะทันหัน ทำให้หลายคนหาเงินไม่ทัน บางคนก็ต้องไปยืมเงินมาจ่าย เพราะกลัวไม่ได้รับปริญญาบัตรที่ตั้งใจเล่าเรียนมานานกว่า 4 ปี
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทราบภายหลังว่า ทาง อว. ปฏิเสธว่าไม่ได้เรียกคืน จึงอยากให้ทางมหาวิทยาลัย ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เป็นการเรียกคืนของมหาวิทยาลัย หรือ อว. และเหตุใดต้องมาเรียกเก็บแบบกระชั้นชิดในเวลาเพียง 5 วัน พร้อมฝากว่าหากเห็นใจว่าที่บัณฑิต ก็น่าจะหาทางออกเพื่อช่วยเหลือ โดยอาจจะให้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรไปก่อน แล้วค่อยเก็บใบปริญญาไว้ หรือ ให้รับเล่มเปล่าไปก่อน แล้วค่อยให้มารับอีกทีหลังจ่ายเงิน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ
ทั้งนี้ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ระบุว่า ทางมหาวิทยาลัยจะมีแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ไม่ระบุช่วงเวลาว่าจะออกมาแถลงเมื่อไหร่