"ชูวิทย์" ซัดนายกฯ เกื้อหนุนคอรัปชัน อำนาจล้นฟ้าแต่ไม่ทำให้คอรัปชันน้อยลง

"ชูวิทย์" ซัดนายกฯ เกื้อหนุนคอรัปชัน อำนาจล้นฟ้าแต่ไม่ทำให้คอรัปชันน้อยลง

View icon 128
วันที่ 8 ก.พ. 2566 | 07.25 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชูวิทย์ดับเครื่องชน ซัดนายกฯ เกื้อหนุนคอรัปชัน อยู่มา 8 ปี อำนาจล้นฟ้า แต่ไม่ทำให้คอรัปชันน้อยลง แฉ ตร.ระดับสารวัตรเป็นนายบ่อนพนันออนไลน์ ขับซูเปอร์คาร์คันละ 30-40 ล้าน ไปทำงาน เจ้านายชมเชย เอาไว้ดูแลผู้ใหญ่ ร่วมกันแบบนี้คอรัปชันกัดกินประเทศจนเน่า ทุกประเทศล้วนมีประวัติการทุจริต แต่เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น คอรัปชันก็ลดลง จนกลายเป็นสิ่งน่ารังเกียจของสังคม แต่ในไทยคอรัปชันยิ่งเติบโต 

พนันออนไลน์ วันนี้ (8 ก.พ.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการขยายตัวของพนันออนไลน์ในระยะ 3-4 ปีมานี้ เพิ่มขึ้นหนักมาก ตำรวจมีหน่วยงานที่ปราบปราม แต่กลับถูกใช้เป็นช่องทางหาเงิน กองบัญชาการไซเบอร์ ศูนย์ปราบปรามไซเบอร์ (PCT) กองบังคับการไซเบอร์ 5 และยังต้องจ่ายเศษให้ นายพล “จ” ที่เคยอยู่ไซเบอร์ เมื่อมีการจ่าย ย่อมปิดไม่อยู่ คนจ่ายต้องพูดว่า “เคลียร์แล้ว” ไม่งั้นจะทำได้ไง พนันออนไลน์จึงเหมือนบ่อน จะเปิดได้ต้องเคลียร์ ไม่งั้นเปิดไม่ได้ แต่พนันออนไลน์หนัก เพราะรายได้มาก เดือนๆ หนึ่งรวมกันเคลียร์หลายร้อยล้าน

แม้แต่วันนี้ยังมีตำรวจระดับสารวัตร เป็นนายบ่อนออนไลน์เสียเอง ทั้งวงการรู้หมด ปิดไม่อยู่ ต้องเลือกเอาว่าจะเป็นตำรวจ หรือจะเป็นนายบ่อน จะเป็นทั้ง 2 อย่างไม่ได้ หรือนายตำรวจเด็กๆ ขับรถซูเปอร์คาร์ คันละ 30-40 ล้าน ห้อยนาฬิกาเรือนละ 20 ล้าน อยู่คอนโดเพนเฮาส์ลอยฟ้า ถามจริงๆ เจ้านายเคยทราบไหมว่าทำพนันออนไลน์ หรือตระกูลร่ำรวยมาก หากให้สรรพากรไปตรวจสาวไส้จะรู้ว่าเงินมาจากไหน เสียภาษีหรือไม่ แต่ไม่มีใครสนใจ กลับชมเชย เอาไว้ดูแลผู้ใหญ่ ทุกคนล้วนมีส่วนร่วมกันหมดกับการคอรัปชันกัดกินประเทศจนเน่า


นายชูวิทย์ ระบุอีกว่า แม้แต่นายกฯ อยู่มา 8 ปี ด้วยการยึดอำนาจ เหตุจากคอรัปชัน มีอำนาจล้นฟ้าเท่าจอมพล ป. แต่หาได้ทำให้คอรัปชันหมดไปหรือน้อยลง ท่านกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเกื้อหนุนให้ระบบนี้อยู่ต่อไปโดยการไม่ทำอะไรเลย เรื่องเล็กสุด การตั้งด่านยังมีเป้าให้เก็บส่งนาย หากจะตั้งด่านได้ผู้บังคับบัญชาต้องอนุมัติ ไม่ใช่นายสิบ นายร้อย นึกอยากจะตั้งก็ตั้งเองได้ที่ไหน แล้วจะไม่รีดไถได้อย่างไร

“นักท่องเที่ยวเป็นเป้าหมายหลัก เพราะอยู่แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้อยู่ประจำ และไม่ยอมเป็นพยานให้เสียเวลา สักพักก็กลับประเทศเขาแล้วเอาเรื่องราวเลวร้ายของตำรวจไปเล่าให้คนเขาฟัง ถึงขนาดบางประเทศทำหนังสือคู่มือเดินทางเตือน เมื่อเดินทางมาอยู่ เที่ยว อาศัยในประเทศไทย”

นายชูวิทย์ ยังระบุถึงการกินสำนวน ช่วยเหลือทางคดีกับผู้ต้องหาฟอกเงิน ค้ามนุษย์ จ่ายเงินให้ละเว้นทรัพย์สินที่ต้องยึด แล้วนำเอาออกมาค้ามนุษย์อีก ส่วนคดีก็วิ่งชั้นอัยการ ถอนหมายจับ สั่งไม่ฟ้อง ดีเอสไอไม่แย้ง ตอนจับโชว์จัดเต็ม แต่พอเรื่องนานไปปล่อยหลุด หวั่นใจ “ตู้ห่าว” จบไม่สวย แบบเดียวกันกับเรื่องอื่นๆ ไปจนถึงระบบด้านบนขององคาพยพทั้งหมด

“นักการเมือง อธิบดี ผู้อำนวยการโรงเรียน เพียงแต่จะถูกจับได้หรือไม่ กินทั้งการโยกย้ายตำแหน่ง งบประมาณ ไปจนถึงอาหารให้เด็กนักเรียน ทุกคนทุจริตคอรัปชัน แต่ไม่มีใครยอมรับ ขนาดมีเงินวางบนโต๊ะ พูดได้เต็มปากว่า ใครถนัดอะไรก็คอรัปชันเรื่องนั้น และกว่าจะจบกระบวนการต่อสู้คดีก็ยืดเยื้อ บอกว่าต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย อีกฝ่ายมีเงินก็ซื้อพยาน ซื้อกฎหมาย หาช่อง ปิดปาก ทำเนียน เรื่องเงียบ ทุกคนแฮปปีได้เงินครบจบในตัว ส่วนประเทศเป็นอย่างไร ช่างหัวมัน”

นายชูวิทย์ ระบุทิ้งท้ายด้วยว่า ทุกประเทศล้วนมีประวัติการทุจริต แต่เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น ทุกอย่างพัฒนา คอรัปชันก็เริ่มลดน้อยถอยลง จนกลายเป็นสิ่งน่ารังเกียจของสังคม แต่ในประเทศไทย ยิ่งนานวันระบบคอรัปชันกลับยิ่งหอมหวล เติบโต และเป็นความชื่นชอบของผู้ถือกฎหมาย ที่จะหาประโยชน์อย่างไร้ยางอายที่สุด เหมือนอย่างที่คนบอกเอาไว้ว่า “ผู้มีกฎหมายในมือ แต่ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนไม่ได้ ถือว่าเป็นคนไร้ซึ่งคุณธรรม” เราไม่มีคุณธรรม แถมยังอ้างความชอบธรรมเพื่อทุจริตเสียด้วยซ้ำ มันเลวระยำที่สุดในยุคนี้