เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องอิทธิพลมาเฟียท้องถิ่น เดิมทีอาจคิดว่าเป็นแค่เรื่องของคนไทยแย่งชิงผลประโยชน์กันเท่านั้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะแม้แต่การขายมุ้งของชาวอินเดียในตลาด ที่ จังหวัดปราจีนบุรี หากข้ามเขตก็ถึงกับต้องขู่ฆ่าและทำร้ายร่างกายกันเลยทีเดียว
เมื่อวานนี้ นายรันตูซา ซึ่งเป็นชาวอินเดียที่เข้ามาประกอบอาชีพขายเสื้อผ้ารวมถึงมุ้ง ในพื้นที่ ตำบลหนองกี่ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี มาร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ในขณะที่กำลังนำเสื้อผ้าไปซักรีดที่ร้าน ในตลาดบ้านโคกอุดม ปรากฏว่ามีกลุ่มชายชาวอินเดีย จำนวน 3 คน เข้ามาทำร้ายที่บริเวณหน้าร้าน เอาหมวกกันน็อกฟาด ดึงรั้งทุบตี และจะเอาตัวตนเองไปขึ้นรถยนต์ แต่ตนพยายามฝืนและได้วิ่งหนีไปด้านใน ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน ยังตามไปรุมทำร้ายต่อที่ในร้านอีก ตนเองทำได้แค่ป้องกันตัวเอง ไม่ได้โต้กลับ ต่อมามีสามีเจ้าของร้านช่วยห้ามปราม และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านมาจึงรอดมาได้
ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ นายรันตูซา บอกว่า ได้เจอกับกลุ่มผู้มาทำร้ายในช่วงเย็น ที่ตลาดทุ่งโพธิ์ โดยตนไปกับเพื่อน 2 คน กำลังยืนคุยกัน อยู่ ๆ ก็มีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เข้ามาถ่ายรูปพร้อมถามว่า มาทำไมแถวนี้ ห้ามมาขายของแถวนี้ หากมาจะยิงให้ตาย หลังจากนั้นตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่เพื่อเอาผ้าที่ซักกลับบ้าน ก็เลยโดนทำร้ายร่างกายดังกล่าว
ในเรื่องนี้ นายเฉลิม เกียรติบรรจง บุคคลที่ผู้เสียหายไปขอความช่วยเหลือ และพามาแจ้งความ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทราบชื่อผู้ทำร้ายแล้ว เป็นกลุ่มของ นายเยปี หรือ ชื่อจริง คือ เยปะกาศ ซึ่งก็คือคนที่ขับรถฟอร์จูนเนอร์ตามที่นายรันซาตูกล่าวถึง โดยกรณีกลุ่มคนอินเดียเก็บค่าคุ้มครองคนอินเดียด้วยกัน ไม่ใช่เพิ่งเกิดครั้งนี้ครั้งแรก เท่าที่ทราบ ใครขายของสายไหน บริเวณไหน ก็จะมีกลุ่มอิทธิพลอินเดียแต่ละแห่งคุมอยู่ ต้องจ่ายให้ต่อเดือนต่อหัว สมัยก่อน ขายโรตีราคา 800 ต่อคนต่อหัว ขายผ้า 1,000 กว่าบาทจนถึง 2,000 บาท คนไหนไม่จ่ายก็จะโดนคล้าย ๆ แบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าผู้ทำร้ายร่างกาย นายรันตูซา เป็นกลุ่มใด เพราะมีหลายกลุ่ม อย่างแถวบ้านดงเย็น หมู่ 10 ก็มีเป็นบ้านแขกอยู่รวมกันเป็น 100 คน มาอยู่กันแบบไหน ทำอะไรกัน ตนไม่ทราบ
