สึกแล้ว อดีตเจ้าอาวาสวัดดัง ล่วงละเมิดทางเพศชายหนุ่ม จ.นครสวรรค์

View icon 269
วันที่ 30 ม.ค. 2566 | 07.11 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - เหตุการณ์นี้ "แพรรี่ ไพรวัลย์" อดีตพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความ แฉเกจิชื่อดัง จังหวัดนครสวรรค์ ว่าเสพเมถุนชายหนุ่ม ก่อนที่ชาวบ้านจะมารวมตัวประท้วงว่าเป็นการดูหมิ่น ว่าร้ายผู้ประเสริฐ สุดท้ายมีรูปภาพพระดังกล่าวกระทำความผิดจริง พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่จึงจับสึกทันที

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" โพสต์ข้อมูลแฉเกจิ พระมหารูปหนึ่ง ชื่อดังของวัดแห่งหนึ่ง จังหวัดนครสวรรค์ว่า "ตาเถร ! ตายแล้ว มีคนส่งรูปพระฉันบวบมาให้ดิฉันดู ทราบว่าเป็นถึงรองเจ้าตำบลด้วย เป็นพระวัดหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ ชอบปลุกเสก ออกพระออกเหรียญให้คนบูชา ตายแล้วววววววววววว" หลังจากนั้นก็มีคนดังและคนในสังคมออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทำนองว่าเป็นความจริงหรือไม่ หรือ เข้าใจผิดหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ "แพรรี่" โพสต์ข้อความอีกรอบว่า "พระมหารูปหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์นะคะ ที่เป็นรองเจ้าคณะตำบล ชอบปลุกเสก ขายวัตถุมงคล เลี้ยงเด็กหนุ่ม ดิฉันให้เวลาท่าน 3 วัน ในการสละผ้าเหลือง ถ้าไม่สละ ดิฉันจะเอาภาพฉันบวบของท่านไปให้สื่อนะคะ จบ" ทำให้บรรดานักสืบโซเชียลทำงานกันอย่างหนัก

แต่เรื่องยังไม่จบเท่านั้น เมื่อ "แพรรี่" โพสจัดหนักอีกหลายครั้ง ทำนองว่าสงสารหลวงปู่ที่ดูแลเกจิฉาว ท่านควรจะได้พักผ่อน แต่กลับต้องมาเจอเรื่องราวแย่ ๆ แถมเสนอแนะว่า หากกระทำผิด ก็จะออกมายอมรับผิดตามตรง แล้วแก้ไข กลับตัวกลับใจเป็นคนดี แต่เรื่องราวกลับร้อยแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหลาย ๆ คนเริ่มสงสัยว่าเกจิชื่อดังเป็นใคร แถมเคยปลุกเสกวัตถุมงคลจำหน่ายให้ญาติโยมด้วย หลังจากนั้นอีก 4 ชั่วโมง "แพรรี่" โพสต์รูปชายคนหนึ่ง ลักษณะคล้ายพระสงฆ์ กำลังทำกิจกรรมบางอย่างอยู่กับชายหนุ่ม ทำให้สังคมออนไลน์ยิ่งร้อนเป็นไฟ

ขณะที่บรรยากาศภายในวัด พบชาวบ้านรวมตัวกันประมาณ 200 คน เดินทางไปที่วัดที่พระสงฆ์ดังกล่าว (พระฉาว) เป็นเจ้าเอาวาส และรองเจ้าคณะตำบลท่าตะโก อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ แถมยังเป็นศิษย์เอกคนสนิทของเกจิชื่อดัง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อสอบถามเกี่ยวกรณีที่เกิดขึ้น แต่พระเลขาของวัด แจ้งว่าท่านออกไปรับกิจนิมนต์ต่างจังหวัด ตั้งแต่ช่วงเช้า ของวันที่ 29 มกราคม 2566 และไม่ทราบว่าที่จังหวัดใด ก๋ยิ่งทำให้ชาวบ้านร้อนรนจิตใจ ปักหลักอยู่วัด จนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน

ชาวบ้าน บอกว่า ทุกคนไม่เชื่อ มั่นใจว่าท่านไม่พฤติกรรมอย่างที่ถูกกล่าวหาอย่างแน่นอน หากท่านมีพฤติกรรมเช่นนั้นจริง ขอให้นำรูปภาพออกมาเปิดเผย ทุกคนและคนทั้งประเทศที่ติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่ จะได้รู้ความจริงพร้อม ๆ กัน และหากมีหลักฐานชัดเจน ก็พร้อมจะทำใจยอมรับ ยืนยันว่าจะไม่ปกป้องแน่นอน

ขณะที่ ชาวบ้านอีกคน บอกว่า ตั้งแต่ที่ท่านย้ายมารักษาการเจ้าอาวาส และเลื่อนขั้นเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดแห่งนี้ ท่านไม่เคยทำอะไรเสื่อมเสีย แม้แต่เรื่องเงินเรื่องทองของวัด ท่านก็ไม่เคยมีปัญหา เนื่องจากท่านจะไม่จับเงินเลย ส่วนกรณีท่านนำเงินที่ได้จากการปลุกเสกของขลังไปซื้อรถยนต์ให้ชายหนุ่มใช้นั้น ตนเองไม่ทราบ จึงมองว่าการที่มีคนนำสาร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นจริง หรือ เท็จ เพราะขัดแย้งกันเรื่องตำแหน่งใช่หรือไม่

ขณะที่เลขานุการวัดดังกล่าว บอกว่า เห็นภาพที่กระจายในสังคมออนไลน์แล้ว แต่ไม่สามารถออกความเห็นได้ว่าเป็นอย่างไร เพราะตลอดระยะเวลา 1 ปี พระสงฆ์ดังกล่าวไม่เคยมีพฤติกรรมน่าสงสัย หรือ มุ่งไปทางเพศเลยสักครั้ง ทุกอย่างคงจะต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน หากถูกก็ว่าไปตามถูก หากผิดก็ว่าไปตามผิด

หลังจากนั้นมีรายงานว่าพระชั้นผู้ใหญ่ และเจ้าคณะอำเภอท่าตะโก มอบหมาบให้พระสงฆ์ที่สนิทกับพระสงฆ์ที่กระทำความผิด โทรศัพท์ติดต่อให้มาหา ก่อนจะจับสึกทันที จากนั้นมีภาพพระสงฆ์ดังกล่าว สวมชุดฆราวาส สีน้ำตาล นั่งสำรวมอยู่บนเก้าอี้ไม้ เหมือนเรื่องราวจะจบ แต่สังคมออนไลน์ไม่จบ เพราะส่วนมากยังรับไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แถมยังแสดงความคิดเห็นว่า ผิดจริง ต้องออกกฏหมายติดคุก ยึดทรัพย์เข้าวัดให้หมด ออกไปได้กินบวบสมใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง