เพลิงไหม้โรงงานบรรจุก๊าซ ลำลูกกา คลอง 5 จ.ปทุมธานี

View icon 139
วันที่ 25 ม.ค. 2566 | 16.13 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานบรรจุก๊าซ ในพื้นที่ คลอง 5 จังหวัดปทุมธานี โดยมีรายงานว่า มีสารเคมีรั่วไหล และมีเสียงระเบิดดังสนั่นในที่เกิดเหตุต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ 

มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 12.40 น.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานบรรจุก๊าซ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกับ ถนนเลียบคลอง 5 คลองหลวงปทุมธานี โดยเพลิงมีการลุกไหม้และลุกลามเพิ่มเติม และในที่เกิดเหตุยังมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ทำให้อาสาสมัครที่เข้าไปสนับสนุนการช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากมีสารเคมีรั่วไหลออกมาจำนวนหลายตัว อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่มีชุดอุปกรณ์ความพร้อมสนับสนุนในจุดเกิดเหตุ

โดยมีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า จุดเกิดเหตุภายในโรงงานดังกล่าว มีถังก๊าซลูกใหญ่ จำนวน 2 ถัง ยังไม่ระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงเอาไว้อยู่บริเวณด้านนอกตัวโรงงาน กระทั่งเมื่อเวลา 13.30 น. เพลิงยังคงมีการลุกไหม้และลุกลาม มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ

ทีมข่าวที่ลงพื้นที่ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณที่ตั้งของโรงงานชื่อว่า บริษัท แลบแก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันและเปลวไฟจำนวนมากด้านในบริษัท โดยบริษัทแห่งนี้ เป็นสถานที่ผลิตและจำหน่ายก๊าซออกซิเจน (Co2) ก๊าซไนโตรเจน (N2) ก๊าซอาร์กอน (Ar) ก๊าซฮีเลียม (He) และ ก๊าซอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นก๊าซที่ใช้ในโรงพยาบาล ไม่ใช่ก๊าซหุงต้มแต่อย่างใด

โดยโรงงานแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด นอกจากนี้ ยังพบถังก๊าซเล็ก ๆ อีกหลายร้อยใบ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้ จึงได้เข้าไปตรวจสอบ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นพนักงานของโรงงานแห่งนี้ ส่วนคนงานอีกกว่า 30 คน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาพักเที่ยง จึงไม่มีคนงานอยู่ในบริษัท

ทีมข่าวได้สอบถามกับ พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.ลำลูกกา เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงใช้ความระมัดระวังในการเข้าไปดับเพลิง ส่วนเรื่องทางด้านการจราจรไม่ติดขัด เพราะเนื่องจากถนนดังกล่าวเป็นถนนเลียบคลอง โดยตอนนี้ได้ทำการปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุไว้แล้ว เพื่อไม่ให้บุคคลภายในเข้าไปด้านใน โดยให้แค่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่เพียงเท่านั้น