เช้าข่าว 7 สี - ความคืบหน้าคดีความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากทางการสามารถรวบตัว 2 ผู้ต้องสงสัย ก่อเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ ที่นราธิวาส มีผู้เสียชีวิต 1 นาย ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 45 คน
เป็นความคืบหน้าสำคัญที่ทำให้ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องบินด่วนลงพื้นที่ ที่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เพื่อแถลงความคืบหน้าคดีนี้ด้วยตัวเอง โดยระบุว่า เป็นผลจากชุดสืบสวนลงพื้นที่พบข้อมูลเชิงลึก พบคนร้ายขับรถกระบะคันที่ติดตั้งระเบิด หรือ คาร์บอมบ์ มาจอดไว้ในแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่รอรับหลบหนีไป
ทางตำรวจมั่นใจว่า การจับกุมคนร้ายครั้งนี้ มีทั้งพยานวัตถุ พยานแวดล้อม และพยานบุคคล รวมไปถึงผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ยังพบคนร้ายเดินทางจากพื้นที่อำเภอตากใบ มียานพาหนะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ 6 คัน ตรวจยึดมาได้แล้ว 5 คัน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันกับพวกก่อเหตุครั้งนี้ ขณะนี้ ตำรวจรู้ตัวบุคคลที่ร่วมกระทำผิดทั้งหมด และยังหลบหนีอยู่อีก 7 คน อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
ผบ.ตร. ยังสั่งให้เร่งติดตามคดีอื่น ๆ อย่างคดียิงและวางระเบิดโกดังเก็บสินค้า ที่อำเภอตากใบ รวมถึงคดีลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนส่งสินค้า ระหว่างสถานีรถไฟคลองแงะ-ปาดังเบซาร์ ที่มีเจ้าหน้าที่การรถไฟ เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย โดยเชื่อว่า เป็นระเบิดแบบเหยียบที่เคยถูกนำมาใช้ต่อรางและขบวนรถไฟ คล้ายคดีที่ออกหมายจับ นายอัซมัน กับพวก ในช่วงปี 2564 ด้วย
สถิติการก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา เมื่อปี 2565 หรือปีที่ผ่านมา จะเห็นว่า มีการก่อเหตุที่ทางตำรวจภาค 9 รวบรวมมา 106 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 31 คดี รวม 78 คน
ส่วนความสูญเสียที่ ศอ.บต. รวบรวมไว้ พบว่า เฉพาะปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิต ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ 24 คน บาดเจ็บ 248 คน ใช้งบประมาณเยียวยากว่า 76 ล้านบาท หากรวมตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบปี 2547-2565 มีผู้เสียชีวิตเกือบ 6,000 คน สูญงบประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท
