ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 ยังเกาะติดการกวาดล้างทุนจีนสีเทา ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ล่าสุด มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีแบบยกแก๊งกับฝ่ายปกครองอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เซ่นการทุจริตสวมบัตรประชาชนให้ทุนจีนสีเทา เป็นอย่างไร ติดตามกับคุณ มะลิ แซ่ฉิ่น
เสียงที่ท่านผู้ชมได้ยินไปเมื่อสักครู่ เป็นการแจ้งข้อกล่าวหา จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บุกเข้าตรวจค้นจับกุม กลุ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกตั้งข้อหาว่า มีส่วนร่วมในการทุจริตสวมบัตรประชาชนให้กับกลุ่มทุนจีนสีเทา โดยพบข้อมูลมีผู้ร่วมปฏิบัติการไล่ตั้งแต่ระดับ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ไปจนถึงปลัดอำเภอ
ปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งฝ่ายปกครองนอกรีตครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังมีการขยายผลจากกรณีที่มีบุคคลสัญชาติจีน ถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ เหี้ยมโหด สะเทือนขวัญ ถึงขั้นทำร้ายร่างกายตัดนิ้วก้อยมือข้างขวาข่มขู่ญาติ โดยเหตุเกิดในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จากการสืบสวน ตำรวจพบพิรุธแฟนสาวของเหยื่อมีบัตรประชาชนเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กลับพูดภาษาไทยไม่ชัดเจน สำเนียงพูดคล้ายคนจีน จึงมีการเทียบใบหน้ากับภาพถ่ายของบิดา มารดาตามทะเบียนราษฎร์ และนำภาพไปให้ดู แต่เจ้าตัวกลับบอกว่าไม่รู้จักคนที่เป็นพ่อ แม่ ตามเอกสารราชการ
เมื่อถูกเค้นหนักก็สารภาพสิ้นไส้ว่า บัตรประชาชนที่ได้มา มีสนนราคาค่าใช้จ่ายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองดำเนินการให้สูงถึงหัวละ 800,000 บาท จึงเป็นที่มาของการออกหมายเรียก และหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้านกำนันไปจนถึงปลัดอำเภอ รวมถึงพ่อของบุคคลที่ถูกสวมบัตรประชาชน ซึ่งพัวพันด้วย เพราะเป็นผู้ลงนามรับรองให้กับการสวมบัตรประชาชนดังกล่าว เรียกว่าโดนรวบยกแก๊ง โดยสิ่งที่ตำรวจต้องขยายผลต่อคือ ยังมีขบวนการสวมบัตรประชาชนแบบนี้ในพื้นที่ใดอีกบ้าง เครือข่ายทุนจีนสีเทาเหล่านี้ใหญ่โตมโหฬารแค่ไหน จะขุดรากถอนโคนกันอย่างไร
กลโกงสวมบัตรประชาชนไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แค่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมด้วย ทุกอย่างก็สะดวกโยธิน เริ่มจากการติดต่อผู้ใหญ่บ้าน พาไปหากำนัน เตรียมลูกบ้านที่มีลูกชาย หรือลูกสาว แล้วแต่เพศที่ลูกค้าต้องการ จากนั้นติดต่อไปยังปลัดอำเภอ ถ่ายภาพ พริ้นต์บัตรออกมา เอกสารราชการก็เรียบร้อยถูกต้อง เพราะจะมีลายเซ็นรับรองจากลูกบ้าน โดยที่คนเป็นพ่อแม่ ไม่เคยได้เห็นหน้าลูกเทียมที่เข้ามาสวมรอยแทนลูกแท้ ๆ ของตัวเอง ซึ่งตำรวจพบว่าแก๊งนี้เพิ่งเริ่มทำกันเป็นขบวนการในปีนี้เอง แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด โดนจับยกแก๊งอย่างที่เห็น
การกวาดล้างทุนจีนสีเทา ที่เดินหน้าต่อเนื่องกว่าสองเดือนเศษแล้ว ดูทีท่าจะยังไม่จบง่าย ๆ เพราะแตะไปตรงไหนก็เจอเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยวด้วย จะเซ็ตซีโร่อาณาจักรทุนจีนสีเทา จึงไม่เพียงต้องพึ่งความเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนโยบายที่ชัดเจนของรัฐบาลเท่านั้น แต่การตามติด ทวงถามของสังคม ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้การทลายทุนจีนสีเทา ไม่กลายเป็นมวยล้มต้มคนดู
