ส่งหมายจับล่าข้ามประเทศ แก๊งปล้นทองเผ่นข้ามแดน จ.ตาก

View icon 188
วันที่ 10 ธ.ค. 2565 | 04.14 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ยังไม่แจ้งข้อหาเจ้าของร้านทอง ที่ยิงคนร้ายได้รับบาดเจ็บ ส่วนอีก 2 คน ที่ยังจับกุมไม่ได้ พบเส้นทางหลบหนีข้ามแดนไปแล้ว อยู่ระหว่างการประสานและส่งหมายจับให้ช่วยล่าตัวตามกลับมาดำเนินคดีฝั่งไทย

เหตุกลุ่มคนร้ายใช้จักรยานยนต์ 2 คัน บุกปล้นห้างทองเยาวราช ริมถนนท่าเรือ เขตเทศบาลเมืองตาก และใช้ปืนเก็บเสียงยิงกระจกหน้าร้าน ระหว่างที่ใช้เครื่องหินเจียรตัดลูกกรงเหล็ก ถูก นายพิสิฐ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านฯ ใช้ปืนลูกซองยาวยิงใส่ 4 นัด เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 8 ธันวาคม โดย 1 นัด เข้าขาขวา นายวิชัย อายุ 31 ปี กระสุนตัดเส้นเลือดใหญ่ ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แต่อาการสาหัส ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก จนอาการปลอดภัย อีก 1 คน ถูกตำรวจสืบสวนจับตัวได้ขณะหลบหนีไปซ่อนในป่าละเมาะหลัง กศน.ตาก ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ทราบชื่อ คือ นายเต้อ ภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอพบพระ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ยังคงหลบหนี

จากข้อมูลของคนร้าย ยืนยันแล้วว่า ทั้ง 2 คน ที่ถูกจับกุม คือ คนร้ายที่ก่อเหตุปล้นร้านทองในพื้นที่อำเภอพบพระ กวาดทองน้ำหนัก 182 บาท หลบหนีไป เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่อีก 2 คน ที่หลบหนี ยังไม่พบประวัติที่ชัดเจน ทราบแค่ว่าเป็นชาวเมียนมาที่ถูกชักชวนให้มาร่วมแก๊งปล้น โดยคนขี่รถจักรยานยนต์ชื่อ นายต้ายี และคนซ้อนชื่อ นายกิ้งกู้

เบื้องต้น ได้เบาะแสจากภาพวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ พบว่า ทั้ง 2 คน หลบหนีข้ามสะพานกิตติขจร ไปทางหมู่บ้านหนองบัวใต้ ใช้เส้นทางในหมู่บ้านเพื่อหลบไปในพื้นที่อำเภอวังเจ้า และอาศัยความชำนาญลัดเลาะไปตามเส้นทางธรรมชาติข้ามพรมแดนด้านอำเภอพบพระ เพื่อเลี่ยงการติดตามและตั้งด่านสกัดของเจ้าหน้าที่ ขณะนี้ ศาลได้ออกหมายจับแล้ว ตำรวจอยู่ระหว่างการประสานทางการเมียนมา เพื่อส่งหมายจับให้ช่วยติดตามตัว และพากลับมาดำเนินคดีฝั่งไทย

วันเดียวกัน พันตำรวจเอก สิทธิชัย ยิ้มยวน ผู้กำกับการ สภ.เมืองตาก นำตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคุมตัว นายเต้อ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยให้จำลองเหตุการณ์ขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์มาที่ร้านทอง และขณะก่อเหตุ ท่ามกลางสื่อมวลชนที่พยายามซักถาม แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมปริปากพูด

พลตำรวจตรี ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ลงพื้นที่ตรวจสอบและพูดคุยกับ นายพิสิฐ เจ้าของร้านทอง เพื่อนำข้อมูลที่ได้และจากพยานวัตถุไปประมวลในสำนวนการสอบสวน เพื่อพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่ง นายพิสิฐ ยืนยันว่า ทั้ง 4 นัด ที่ยิงออกไป เป็นไปตามยุทธวิธีที่ได้รับการฝึกมา โดยนัดแรกยิงขึ้นฟ้าขู่ไป 1 นัด และยิงต่อเนื่องในท่าประทับเอวอีก 2 นัด เพื่อไล่คนร้าย แต่ขณะคนร้ายหลบหนีได้หันปืนเล็งเข้ามา จังหวะนั้นจึงยิงในท่าประทับเอวมุมต่ำอีก 1 นัด รวม 4 นัด

ขณะที่ พันตรี กิตติ เกิดผล นายทหารกองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 310 หรือ มทบ.310 นายสนามยิงปืน ในฐานะครูฝึก เปิดเผยว่า นายพิสิฐ เข้ารับการอบรมการใช้อาวุธปืนเบื้องต้นที่นี่ พร้อมภรรยาเมื่อ 8 ปีก่อน เป็นผู้ที่ชื่นชอบในกีฬายิงปืน เคยร่วมแข่งขันในรายการแข่งขันที่ทางสนามจัดแข่งในจังหวัดตาก และได้ถ้วยรางวัลมามากมาย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าได้ปฏิบัติตามหลักการใช้อาวุธปืนตามที่ได้สอนมา หากดูจากกล้องวงจรปิดจะเห็นชัดว่า นัดแรกเป็นการยิงขึ้นโดนเพดานเพื่อขู่ แต่ภัยนั้นยังไม่ยับยั้ง จึงยิงไปอีก 2 นัด ในท่าประทับเอว แต่จังหวะนั้นคนร้ายได้หันอาวุธปืนมา จึงมีการยิงนัดที่ 4 ในมุมต่ำ กระสุนถูกคนร้ายบริเวณช่วงล่างของลำตัว ซึ่งเป็นการยิงแบบยับยั้งระงับภัยตามหลักยุทธวิธีการใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน

ปัจจุบัน หากมีเวลาว่าง นายพิสิฐ ก็มักจะเข้าไปสนามเพื่อซ้อมยิงปืน และมักจะนำปืนที่มีในครอบครองหลายกระบอกไปขอคำแนะนำการใช้งานอยู่เสมอ เท่าที่รู้จักเป็นคนมีจิตใจดี ใจเย็น สอนง่าย การใช้ปืนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง