เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว "พิ้งกี้ สาวิกา" นักแสดงสาวที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีแชร์ Forex-3D ได้ยื่นขอประกันตัวพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 3 ล้านบาท ปรากฎว่าศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวได้ แต่หลังถูกเบิกตัวไปขึ้นศาลนัดตรวจหลักฐาน และมีความพยายามขอยื่นประกันตัวอีกครั้ง ปรากฎว่าคราวนี้สำเร็จ ศาลอนุญาตให้ประกันตัวได้
หลังจากที่ นางสาวสาวิกา ไชยเดช หรือ พิ้งกี้ ดารานักแสดง กลายเป็นจำเลยที่ 7 ในคดีร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน คดีแชร์ Forex-3D และต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ตลอด 3 เดือนมานี้ ทนายความของพิ้งกี้ พยายามยื่นขอประกันตัวต่อศาลรวมทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 3 ได้ยื่นไปเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน โดยได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 ล้านบาท ไปขอให้ศาลพิจารณา แต่ศาลพิเคราะห์ว่า คดีนี้เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างการพิจารณาคดี เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง มูลค่าความเสียหายค่อนข้างมาก ยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงให้ยกคำร้อง
จากนั้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน พิ้งกี้ ถูกเบิกตัวไปขึ้นศาลเพื่อฟังการพิจารณาคดีนี้อีกครั้ง โดยทนายความของพิ้งกี้ และมารดา แถลงต่อศาลยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ ไม่เคยชักชวนหรือแนะนำใครมาร่วมลงทุน จำเลยทั้งสองเป็นเพียงนักลงทุนที่ได้รับเงินเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนเท่านั้น ไม่เคยได้รับประโยชน์อื่น ซึ่งศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ครั้งถัดไปในวันที่ 10 สิงหาคม ปี 2566
แม้หลายคนจะตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้น่าจะยืดเยื้อไปอีกนาน และคงไม่มีใครได้รับการประกันตัว แต่ปรากฎว่าช่วงเย็นวานนี้ มีข่าวยืนยันว่า ศาลอนุญาตให้ประกันตัว "พิ้งกี้" โดยตีหลักทรัพย์ให้วางเงินประกันตัว 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หากเปลี่ยนถิ่นที่อยู่ให้แจ้งต่อศาลภายใน 7 วัน และให้รายงานตัวต่อศาลทุกเดือน จนกว่าจะมีเหตุเปลี่ยนแปลง และให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ทราบด้วย ซึ่งทนายความก็ได้นำแคชเชียร์เช็คเงินสดไปวางต่อศาลไว้เป็นหลักประกัน
ช่วงหัวค่ำ สื่อมวลชนจากหลายสำนักพร้อมใจกันไปรอการปล่อยตัวชั่วคราว "พิ้งกี้" ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ระหว่างนั้นก็มีรถยนต์เอนกประสงค์สีขาวคันหนึ่ง ที่คาดว่าเป็นของเพื่อนพิ้งกี้ ขับไปรับตัวที่เรือนจำ โดยใช้เวลาไม่นานก่อนจะขับกลับออกมา ผู้สื่อข่าวพยายามสังเกตเข้าไปในรถ ก็พบพิ้งกี้สวมชุดสีน้ำตาลอ่อนนั่งอยู่ท้ายรถ สีหน้ายิ้มแย้ม ยกมือไหว้ โบกมือทักทาย และทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยู เพื่อขอบคุณสื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าว แต่ไม่ขอเปิดกระจกรถเพื่อให้สัมภาษณ์หรือพูดคุย ก่อนที่รถจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปจากเรือนจำ
ส่วน นายขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ หรือ กระทิง ขุนณรงค์ ดารานักแสดงที่ถูกออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ตามที่มีผู้ร้องทุกข์ให้ตรวจสอบว่า มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ ได้มาพบพนักงานสอบสวนพร้อมทนายความและคนสนิท ตามนัดหมาย และใช้เวลาไปไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ในการให้ปากคำในฐานะ "พยาน"
ระหว่างพักการให้ปากคำ "กระทิง ขุนณรงค์" บอกว่า ได้นำสเตตเมนต์ หรือรายการเดินบัญชีมาชี้แจงข้อสงสัย แต่ไม่ให้รายละเอียดว่าได้ให้การ หรือตอบข้อซักถามไปอย่างไรบ้าง เพราะไม่รู้ว่าพูดได้มากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันได้ว่าไม่เครียด
ขณะที่ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ DSI บอกว่า ประเด็นที่พนักงานสอบสวนได้ตั้งไว้ เป็นการสอบถามลักษณะการลงทุน และเส้นทางการเงินเป็นหลัก หลังจากนี้จะนำเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ ไปพิจารณาร่วมกับคำให้การ และพยานหลักฐานอื่น ๆ หากพบว่าเข้าข่ายกระทำผิดจึงจะเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหา แต่หากไม่เข้าองค์ประกอบความผิด จะพิจารณาสั่งไม่ฟ้องต่อไป
